เชียงราย – ใครผิด เปิดไทม์ไลน์ รถตู้ขนส่งสินค้าผ่านด่านศุลกากรแม่สาย - ท่าขี้เหล็ก พบเป็นรถไทยคนขับพม่า ขาดต่อภาษีเพียบ !
สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ทหารจากกองกำลังผาเมือง ตม.จ.เชียงราย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ได้ร่วมกันจับกุม รถยนต์ตู้ ต้องสงสัย เป็นรถตู้โตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน นข-8740 เชียงราย ที่ขับเข้ามาบริเวณจุดตรวจขาออก มุ่งหน้า จ ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยจากใบแสดงสินค้า ระบุว่าบรรทุกสินค้าเป็น หมอน , เก้าอี้พลาสติก
แต่จากการค้นภายในรถ พบว่า มีรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน ซึ่ง เป็นรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น สกูปปี้ จำนวน 1 คัน และ รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น พีซีเอ๊ก 160 สีขาว จำนวน 2 คัน สภาพใหม่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และ พบกระสอบสีขาว รวม 15 กระสอบ ภายในกระสอบบรรจุสารเคมีชนิดก้อนแข็งสีขาว คล้ายสารส้ม (คาดว่าเป็น โซเดี่ยมไซยาไนต์ ที่สามารถสกัดเป็นสารตั้งต้น ผ่านกระบวนการ P-2-P ( phenyl-2-propanone ) ในการผลิตยาบ้า และไอซ์) กระสอบ ละ 50 ก.ก.รวมน้ำหนัก 750 ก.ก.วางทับอยู่บนรถจักยานยนต์ โดยมีหมอนกับเก้าอี้พลาสติก ทับไว้เพื่อปกปิดสายตาอีกที
ทราบชื่อคนขับรถตู้ชื่อ นายไส วันเพียว (MR. SAI WAI PHYO) อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา โดยมี นายยาโกโก (MR.MYAT KO KO) อายุ 35 ปี คนขับรถฝั่งเมียนมามารอเปลี่ยนเพื่อขับรถไปฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา
จากการสอบถามคนขับชาวพม่า อ้างว่า ได้ขับรถไปรับกระสอบทั้ง 15 กระสอบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าข้างในกระสอบเป็นอะไร โดยไปรับมาจาก บริเวณหลังตลาดสดนายบุญยืนแม่สาย หลังจากนั้นก็จับรถไปรับรถ จยย. ทั้ง 3 คันจากชายไทย ไม่ทราบชื่อ ที่รออยู่ใกล้ๆกับ วัดดอยงาม
เบื้องต้น นายไส วันเพียว (MR. SAI WAI PHYO) อายุ 26 สัญชาติเมียนมา ให้การว่า ตนเองรับจ้างขนสินค้าจากตัวเมืองแม่สายมาที่ด่านพรมแดนมิตรภาพไทย-เมียนมา ทุกวัน โดยสวมเสื้อกั๊กสีฟ้า มีใบตรวจโควิด-19 ตามนโยบายจังหวัดอย่างถูกต้อง
โดยคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ได้ตั้งข้อหาชาวพม่าทั้ง 2 คนว่า ร่วมกันส่งออกสิ่งของ โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และเพิ่มข้อหา นายไส วันเพียว(MR. SAI WAI PHYO) อายุ 26 ปี ว่าฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน และฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค.จ.เชียงราย และ หลบหนีเข้าเมืองด้วย เพราะไม่มีชื่อขอเข้าเมืองในสารระบบของ ตม.จังหวัดเชียงราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งสารเคมีดังกล่าวไปตรวจสอบที่ จ.เชียงใหม่ ว่าเป็นอะไรแน่ เพราะ จ.เชียงราย ไม่สามารถตรวจได้
และในวันเดียวกัน (27 ม.ค.) ในช่วงเย็น ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตู้ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ออ-2045 กรุงเทพมหานคร ได้ขับด้วยความเร็วจนเสียหลักมาชนกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน ผก-8130 เชียงราย
ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าโรงไฟฟ้าแม่สาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์ตู้ที่ใช้ขนส่งสินค้าจาก อ.แม่สาย ไปส่งยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ในที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่รถยนต์เสียหายทั้ง2 คัน ซึ่งคนขับรถยนต์ตู้ เป็นชายชาวพม่า โดยคนขับยอมรับผิด และขอชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ขับขี่รถยนต์กระบะเพื่อไม่ให้ดำเนินคดี ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่า รถยนต์ตู้ คันดังกล่าว ภาษีขาดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563
จนทำให้ ผู้สื่อข่าวพบความผิดปกติ ของรถยนต์ ที่ใช้ขนส่งสินค้าในเขตอำเภอแม่สาย จนผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อหาข่าวเรื่องรถยนต์ ในครั้งนี้
ภาคหลังลงพื้นที่ ผู้สื่อข่าวได้สังเกตว่าภายในบริเวณด่านศุลกากรแม่สาย แห่งที่ 2 พบว่ามีการขนส่งสินค้าตลอดทั้งวันและพบว่ารถยนต์ที่ใช้ขนส่งสินค้า หลายคันไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีบริเวณกระจกรถยนต์และมีหลายคันที่ภาษีขาดซึ่งจากการสังเกตเห็นพบว่าภาษีขาดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 จำนวนหลายคัน แต่ก็ยังนำมาใช้ขนส่งสินค้าและวิ่งตามท้องถนนในเขตอำเภอแม่สาย ที่มีผู้ขับเป็นชาวพม่า ได้โดยไม่มีการตรวจจับจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรถยนต์ทั่วไปที่ประชาชนคนไทยใช้ขับสัญจรไป-มาบนถนนหลวง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดและเจอ รถยนต์ที่ภาษีขาด ก็จะถูกดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับทุกคัน แต่ในทางกลับกันรถยนต์ที่ใช้ขนส่งสินค้าสามารถวิ่งไป-มาได้อย่างสบาย
ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อกับ นายด่านศุลแม่สาย แห่งที่ 2 แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนให้เบอร์โทรศัพท์ของนายด่าน แต่ก็พยายามสอบถามข้อมูลที่ผู้สื่อข่าวจะขอพบนายด่านฯ และเจ้าหน้าที่ด่านฯ ก็ขอเบอร์โทรศัพท์ของผู้สื่อข่าวไป พร้อมแจ้งว่าเดี๋ยวจะติดต่อกลับมา แต่ผ่านไป 2 วัน ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของด่านฯ ติดต่อมาแต่อย่างใด
ด้าน นายพิสันต์ แตงคูหา หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากรแม่สาย ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนรถยนต์ที่ใช้ขนสินค้าเข้า-ออก ภายในด่านฯ จะมีกระบวนการตรวจสอบรถยนต์ทุกคัน โดยจะตรวจสอบเล่มทะเบียนรถ พร้อมดูเอกสารประกอบการเสียภาษีรถยนต์รายปี รวมถึง พรบ. ของรถยนต์ ซึ่งรถยนต์ที่นำมาใช้ขนสินค้า ต้องเป็นรถที่ถูกต้องอย่างแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าว ได้ย้อนถามกลับไปว่าทางด่านศุลกากร เคยตรวจสอบหรือไม่ว่ารถยนต์ทุกคันที่วิ่งผ่านเข้า-ออก ได้เสียภาษี และ ต่อ พรบ. หรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบ พบว่า รถยนต์หลายคัน แผ่นป้ายภาษีขาด ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2563 และ บางคันก็ไม่ได้ติดแผ่นภาษีแสดงที่กระจกหน้ารถยนต์เหมือนรถทั่วไปที่ใช้กันตามท้องถนน
นายพิสันต์ กล่าวว่าในส่วนของการต่อภาษี และ พรบ. ทางด่านศุลกากรไม่ได้มีอำนาจที่จะเข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ แต่เป็นหน้าที่ของขนส่งจังหวัดเชียงรายและหากรถยนต์ทุกคันที่ใช้ภายในด่านฯ ต่อภาษีมาแล้วแต่ไม่ยอมติดแผ่นป้ายภาษีแสดงบริเวณกระจกรถ ทางด่านศุลกากรก็ไม่มีหน้าที่ไปบังคับให้รถทุกคันนำแผ่นภาษีมาติดเพื่อแสดง
นายอนุวัฒน์ วงค์จำรัส ขนส่งจังหวัดเชียงราย
ได้กล่าวว่า ภายหลังจากทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าว ทางขนส่งจังหวัดเชียงรายจะรีบประสานไปยัง ด่านศุลกากรแม่สาย เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ขนส่งเข้าไปตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้ขนส่งสินค้าเข้า-ออก ภายใน ด่านศุลกากรแม่สาย แห่งที่ 2 โดยจะตรวจสอบรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งหากพบว่ารถยนต์คันไหนภาษีขาด ก็จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ
ขนส่งจังหวัดเชียงรายยังกล่าวว่า ในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการจับกุมโดยตรงอยู่แล้ว แต่อาจจะติดตรงที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นอำนาจการดูแลของด่านศุลกากร ซึ่งการจะเข้าไปภายในพื้นที่จะต้องทำหนังสือถึงด่านศุลกากรเสียก่อน แต่ในเร็ววันนี้ก็จะเข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ ต่อไป
ปัญธิพงศ์ ศิริโชคธนากูล / เชียงราย โทร. 0990505989