ร้อยเอ็ด-จัดอบรมโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมายและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้แก่นายจ้าง สถานประกอบการ และองค์กรภาคีเครือข่าย
วันนี้(20 ธ.ค.67) เวลา 10.00 น.นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดการจัดอบรมโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมาย และการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้แก่นายจ้าง สถานประกอบการ และองค์กรภาคีเครือข่าย ประจำปี 2567 ณ ศูนย์ประชุมสาเกตฮอลล์ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายวิรัตน์ จวงพลงาม นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษรักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด แรงงานจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายจ้าง สถานประกอบการ และองค์กรภาคีเครือข่าย เข้าร่วมอบรม
นายวิรัตน์ จวงพลงาม นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษรักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 เห็นชอบ การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 คือผู้ที่มีสถานะไม่ถูกต้อง และกลุ่มที่ 2 คือ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นกลุ่ม มติ ครม.เดิม จึงได้จัดอบรมให้ความรู้ เพื่อให้นายจ้าง สถานประกอบการ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รองรับการฟื้นฟูประเทศ และขาดแคลนแรงงานที่ใช้กำลังแรงกายเป็นหลัก รวมทั้งแลกเปลี่ยนแนวคิด ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ระหว่างนายจ้าง หรือสถานประกอบการ
นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจ้างแรงงานต่างด้าว ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนายจ้างที่ขาดแคลนแรงงาน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ เพราะงานบางอย่างคนไทยก็ไม่นิยมทำ ซึ่งการจ้างคนต่างด้าวนั้นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็มีหลายหน่วยงาน การที่มีแรงงานต่างด้าวเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย มีผลดีในมิติทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็ต้องเฝ้าระวังในมิติด้านด้านความมั่นคง ที่จะต้องมีการบริหารจัดการให้ดี สามารถตรวจสอบและควบคุมให้ทำงานเฉพาะที่ได้รับอนุญาต ไม่แย่งอาชีพคนไทย ไม่สร้างปัญหาสังคม ไม่รวมกลุ่มประท้วง นอกจากนี้ ด้านการรักษาพยาบาล แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานจะต้องมีหลักประกันด้านสุขภาพ เมื่อเจ็บป่วยจะต้องได้รับสิทธิ์ด้านการรักษาพยาบาล อย่างเท่าเทียม
การจัดอบรมในครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้จาก จัดหางานจังหวัด ตรวจคนเข้าเมือง สาธารณสุขจังหวัด ประกันสังคมจังหวัด และสำนักทะเบียนกลาง โดยมีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 100 คน
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ