สมุทรปราการ จมฝุ่นพิษ หลายโรงเรียนปรับเรียนออนไลน์ เตือนประชาชนสวมแมสออกจากบ้าน
วันที่ 24 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นในพื้นที่สมุทรปราการเช้านี้ยังคงน่าเป็นห่วง ค่าสูงเกินค่ามาตรฐานมีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันหลายวัน มีผลกระทบต่อทุกคน โดยพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงถึง 173 US AQI⁺ ฝุ่นปกคลุมอาคารบ้านเรือนอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้หลายโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มีการสั่งหยุดการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษโดยปรับให้นักเรียน เรียนในรูปแบบออนไลน์ ที่บ้านแทน เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในจังหวัดสมุทรปราการสูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพนักเรียน อาทิเช่น โรงเรียนปทุมคงคา โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ โรงเรียนมัธยมวัดด่านสำโรง โรงเรียนสมุทรปราการ และโรงเรียนเทพศิรินทร์สมุทรปราการ เป็นต้นโดยจะพิจารณาปรับรูปแบบการเรียนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านปากน้ำ จากการสอบถามผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล ทราบว่า ทางโรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอนตามปกติ แต่มีการแจ้งว่าหากนักเรียนคนไหนไม่สบายสามารถหยุดเรียนได้ ส่วนมาตรการป้องกันฝุ่นนั้นของทางผู้ปกครองจะให้ลูกหลานนั้นสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่อยู่ด้านนอก ส่วนในโรงเรียนก็ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด
ด้านผู้ปกครอง เผยว่า หลังจากที่ช่วงนี้มีฝุ่นเยอะนั้นทางเด็กก็ไม่สบายบ่อยและติดกันเยอะ แบะมีเด็กนักเรียนหยุดเรียนกันเยอะเนื่องจากฝุ่น โดนที่ตนเองได้รับผลกระทบเนื่องจากน้องไม่สบาย หายใจไม่ออก และเป็นภูมิแพ้ เวลาออกไปข้างนอนก็ต้องใส่แมสรวมทั้งในเวลาอยู่ในห้องเรียน ส่วนทางโรงเรียนยังไม่มีประกาศหยุด ให้แล้วแต่ทางผู้ปกครองถ้าน้องไม่สบายก็สามารถหยุดได้
นายจงใจ หนองสิงห์ อายุ 59 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในตลาดปากน้ำ เล่าว่า ตนเองได้รับผลกระทบจากฝุ่น เจ็บคอ หายใจไม่ออก เป็นมาประมาอาทิตย์นึ่งแล้ว แล้วปีนี้ฝุ่นเยอะกว่าปีที่แล้วมาก ฝุ่นจะมาหนักช่วงเช้า ๆๆ ประมาณ 06.00 น.เป็นเมืองหมอกมองอะไรไม่ค่อยเห็น แต่ช่วงบ่าย ๆ ก็ค่อยจางลง ตนอย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหา ซึ่งปีนี้ตนยังไม่เห็นรถพ่นละอองน้ำมาพ่นตามถนนเลย
นางพิมพ์ใจ อายุ 72 ปี แม่ค้าขายของใกล้โรงเรียน เล่าว่า ตนได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 คือหายใจไม่ออก แน่นหน้าอกและมีน้ำมูก แล้วก็ไอมาก ฝุ่นจะเยอะทั้งวัน ตนได้รับผลกระทบเยอะ จะทำอะไรก็เหนื่อยง่ายต้องให้ลูกทำแทน ตนทำได้แค่พอออกข้างนอกก็ใส่แมสหลายชั้นหน่อย เพื่อป้องกัน คนก็เป็นกันเยอะมาก ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้แต่ก็ยังไม่เห็นมีหน่วยงานไหนลงมาทำอะไร แฟนตนก็ได้รับผลกระทบหนักต้องไปฉีดยาเพราะฝุ่น ปีนี้ฝุ่นเยอะหนักมาก ปีก่อนๆไม่ค่อยเยอะขนาดนี้ เรื่องฝุ่น ตนก็ได้ดูตาม ข่าวในทีวี เขาก็บอกว่า วิธีป้องกันตัวคือต้องใส่แมส ถ้าจะออกจากบ้าน ต้องอยู่แต่ในบ้าน แต่ถ้าตอนอยู่ในบ้าน ตนก็ไม่มีรายได้ ยังไงตนก็ต้องออก
นายกิติกร โล่สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จริง ๆ วันนี้ก็เป็นที่มาของการที่ท่านรัฐมนตรี ต้องยกเลิกมาเปิดงานที่นี้กะทันหัน เพราะว่าตอนแรกวางแผนไว้แล้ว ว่าจะมาพบปะพี่น้อง อสมบ. ที่ฉะเชิงเทราตอนเช้า แล้วก็ตอน 12.30 น. จะมาที่สมุทรปราการ แต่เนื่องจากว่าเช้าตื่นมา สถานการณ์ของฝุ่น PM 2.5 จากที่เปลี่ยนจากสีเหลือง ที่เป็นเฝ้าระวัง ตอนนี้กลายเป็นมีผลกระทบต่อสุขภาพ ก็เป็นที่มาที่ไป ที่ทำให้ท่านรัฐมนตรีต้องรีบกลับไปที่กระทรวง เพื่อที่จะมาประชุมคณะทำ งาน ที่จะหาแนวทางในการดูแลป้องกันประชาสัมพันธ์ต่อไป จริง ๆ แล้วกระทรวงเราเองมีการประชุมมาต่อเนื่อง แล้วก็มีการดูตัวพยากรณ์จากหน่วยงานที่พยากรณ์ เรื่องค่าฝุ่น PM 2.5 ข้อมูลที่เราได้รับเองก็จะอยู่ในช่วงสีเหลือง แล้วก็น่าจะคงสีเหลืองต่อไป อีก 1 อาทิตย์ มันก็เลยเป็นที่มาที่ไป ว่าเราก็คือช่วงนี้ เราก็เป็นการ ประชาสัมพันธ์ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่พอมาเช้าวันนี้ค่าฝุ่นมันทะลุขึ้นไปเป็นสีแดง เป็นมีผลกระทบต่อสุขภาพ ท่านรัฐมนตรีเอง ก็ตื่นตัวแล้วก็เป็นห่วง ก็เลยรีบกลับไปกระทรวง แล้วก็ประชุมว่าเราจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมจากปัจจุบัน ที่เรามีอยู่แล้ว เพราะว่าท่านนายกเอง ที่อยู่ที่สวิสเอง ก็ได้รับทราบ ข่าวแล้ว ก็มีดำริมาว่าอยากให้ทุกส่วนช่วยกันบูรณาการในการมาดูแลเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขเอง ถ้าถามเราจริง ๆ เราเป็นปลายน้ำ เพราะว่าฝุ่นจริง ๆ มันเกิดจากภาคอุตสาหกรรม ภาคการขนส่ง ภาคเกษตรกรรม เป็นหลัก ไอ้เรื่องเรื่องแก้ไขอะไร ทางกระทรวงสาธารณสุขเองไม่ได้มีอะไรที่จะเข้าไปช่วยได้มาก แต่ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขเองอยู่ปลายน้ำ ก็คือรักษาและป้องกัน ไอ้รักษามันก็ คือ คนที่ป่วยแล้วเข้ามา เราก็คงรักษาตามอาการ สิ่งที่ทำได้ดี จริง ๆ คือการป้องกันไม่ให้ป่วยจากฝุ่นพิษ PM 2.5 เราก็จะมีการประชุมแล้วก็ชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ แล้วก็ต้องพยายามชักชวนว่าวันไหนที่สภาพฝุ่นไม่ดี เราต้องลดการทำงานในที่กลางแจ้งลดลง การมีกิจกรรมทางกลางแจ้งต่าง ๆ ควรจะลดลง แล้วก็ถ้ามีความจำเป็น ก็ควรจะใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งหน้ากากอนามัย จริง ๆ ก็มีหลายแบบ ถ้าเราใส่หน้ากากอนามัยแบบของคุณหมอมันจะป้องกันได้ ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ การใส่ 2 ชั้นช่วยได้ แต่ไม่ได้ช่วยเยอะขนาดนั้น ถ้าจะช่วยได้จริง ๆ มันต้องเป็นหน้ากากอนามัย แบบ N95 ก็จะช่วยกันได้ถึง ระดับ 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่า N95 ราคามันก็จะสูงกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป จริง ๆ หน้ากากอนามัยทั่วไป ถ้าเราใส่แล้วเราพยายามจำกัดการอยู่ทำกิจกรรมทางกลางแจ้งของเราได้ ก็น่าจะเป็นตัวป้องกันที่ได้พอสมควร ในระดับที่ตอนนี้อยู่ในระดับที่เป็นสีแดง ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ถ้าเกิดมันขึ้นไปถึงระดับสีม่วง หรือ สีแดงเข้ม อันนั้นคำแนะนำที่ดีที่สุด ก็คือว่าไม่ควรออกจากนอกบ้าน ควรจะอยู่ในบ้านแล้วก็ควรจะปิดประตูให้มิดชิด แล้วก็ใช้เครื่องกรองอากาศ เพราะว่าต่อให้เราปิดประตูมิดชิดแค่ไหนก็ตาม เนื่องด้วยอากาศมันก็เล็ดรอดเข้ามาได้อยู่แล้ว อากาศยังเข้าง่ายกว่าน้ำอีก บ้านเราปิดประตูน้ำยังเข้าได้เลย อากาศย่อมเข้าได้อยู่แล้ว แล้วไอ้ฝุ่นตัวนี้เล็กเข้าไปอีก คือปิดมิดชิดยังไงมันก็จะเข้ามา เพราะฉะนั้นถ้าสถานการณ์รุนแรงมากไปกว่านี้ การมีเครื่องกรองฝุ่นน่าจะมีความจำเป็นต่อ ไป
นายกิติกร กล่าวอีกว่า ถ้าเอาจริง ๆ เลย การที่เราได้รับ PM 2.5 มันเป็นอาการระยะยาว ไอ้อาการปัจจุบันทันด่วน ไม่ค่อยมีหรอก ที่เราเห็น คือ เคสน้อยมาก แล้วก็มักจะเป็นเคสที่เกิดจากคนที่อ่อนแอ หรือ คนที่มีภาวะป่วยเรื้อรัง หรือ ว่าอาจจะเป็นภูมิแพ้มาก่อนอยู่แล้ว คนทั่วไปคุณสูด PM 2.5 ไปอีก 1 อาทิตย์ มันจะมีผลกับคุณในอนาคตก็อีก 2-3 ปีข้างหน้า ไม่ใช่ตอนนี้ คนทั่วไปจะไม่รู้สึก อันนี้ก็คือเป็นสิ่งที่เรากังวล เพราะบางคนคิดว่าก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่จริง ๆ มันเป็นแต่มันจะเป็นสะสมเป็นในอนาคต แต่สำหรับคนที่ไวต่อฝุ่น ก็จะมีส่วนหนึ่งในประชากรของพวกเรา คนที่แพ้ฝุ่นง่ายคนที่ร่างกายอ่อนแอ คนที่อ่อนแอทางระบบทางเดินหายใจ อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ อย่างที่เราเห็นข่าวว่าเด็กบางคนมีเลือดกำเดาไหล มันก็เกิดขึ้นได้ เพราะว่าตัวฝุ่นเองมันทำให้เกิดการระคายเคือง ถ้าเด็กคนนี้เขามีเยื่อบุที่มันเบาะบางอยู่แล้ว มันมีโอกาสที่ทำให้เขาเกิดเลือดกำเดาไหลได้ มันก็เป็นอะไรที่เราจะต้องดูแลตัวเราเอง ถ้าเรารู้ตัวว่าเราเป็นคนบอบบาง คนที่อ่อนแอกับเรื่องฝุ่น เป็นคนแพ้ง่าย เราก็ต้องยิ่งเพิ่มการระมัดระวังเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า การใส่หน้ากากอนามัย การลดกิจกรรมในกลางแจ้ง ต้องลดลงให้มากกว่าคนอื่น ต้องดูแลให้มากกว่าคนอื่น หรือ แม้กระทั่งว่าถ้าเราเป็นคนที่บอบบางจริง ๆ อยู่ในบ้านที่เราปิดประตูมิดชิดแล้ว เครื่องกรองอากาศก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่ใช่ว่าปิดประตูแล้วจะคิดว่าปลอดภัย ถ้าเราปิดประตูแต่เราอยู่ ตลอดแต่เราไม่มีเครื่องกรองอากาศเลย บางทีค่าฝุ่นมันก็ค่อยสะสมแล้วเพิ่มขึ้นมาได้เหมือนกัน
*************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ