ชาวบ้านสุดทนล้อมจับโจรฉกบันได สุดอึ้งพบประวัติโชกโชน มีแม้กระทั้งโกงค่ากับข้าว
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.00 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีชาวบ้านจำนวนมากช่วยกันล้อมโจรขโมยบันได เป็นชาย 1 ราย ภายในซอยชุมชนรุ่งเรื่อง ฝั่งตรงข้ามปากซอย สุขสวัสดิ์ 35 จึงรีบรุดจัดกำลังเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอยชุมชนรุ่งเรือง ฝั่งตรงข้ามปากซอย สุขสวัสดิ์ 35 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จุดเกิดเหตุพบกับชาวบ้านภายในชุมชนดังกล่าวยืนมุงดูอยู่เป็นจำนวนมากแล้วเมื่อเดินแหวกฝูงชนเข้าไปพบกับ นาย อนุชา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุ นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในสภาพคอตกสีหน้าเศร้าหมอง โดยมีชาวบ้านยืนล้อมเอาไว้เพื่อป้องกันการหลบหนี
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถาม นาย อนุชา ว่าไปก่อเหตุเอาบันไดเขามาทำไม นาย อนุชา ก็ตอบแบบหน้าตาเฉยว่าเอามาปีนจับนก แล้วเอาแค่บันไดอย่างอื่นตนไม่ได้เอา
และจากการสอบถามคุณ ไก่ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบ้านที่เกิดเหตุกล่าวว่า เขาบอกว่ารู้จักกับเจ้าของบ้านแล้วเจ้าของบ้านให้เขายืมบันได ส่วนช่างก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แล้วเขายังเดินเข้าไปภายในบ้านด้วยนะแป๊บนึงแล้วเขาก็เดินออกมาฟอร์มเหมือนว่าจะเดินเข้าไปคุยแต่จริงๆแล้วไม่มีใครแล้วก็เดินหยิบบันไดไปเลย เหตุเกิดอยู่ตรงข้ามแยก 27 ภายในซอยประชาอุทิศ 33 ที่กำลังก่อสร้าง
แล้วหลังจากที่ นาย อนุชา ได้ลงมือก่อเหตุไปแล้วนั้นทางแฟน คุณ ไก่ ก็ได้นำภาพของ นาย อนุชา เป็นภาพนิ่งที่กำลังเดินถือบันได ออกมาโพสในเพจแจ้งข่าวสารคนราษฎร์บูรณะ – ประชาอุทิศ ( ทุ่งครุ ) มีใจความว่า * ด่วนใครพบเจอหรือรู้จักบุคคลในภาพนี้รบกวนติดต่อผมหน่อยครับ เข้ามาขโมยบันไดที่บ้านกำลังก่อสร้างอยู่ ทำทีโกหกช่างว่ารู้จักเจ้าของบ้านให้มาเอาบันได ซอยประชาอุทิศ 33 ครับ แล้วเมื่อเปิดอ่านในคอมเมนต์ก็พบว่ามีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมากถึงพฤติการสุดแสบของ นาย อนุชา ที่ไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของตน โดยเฉพาะบ้านของคนที่พักอาศัยภายในซอยประชาอุทิศ 33 และมีอยู่คอมเมนต์นึงสร้างความตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อมีอยู่คอมเมนต์นึ่งกล่าวว่า อยู่ในซอยชุมชนรุ่งเรืองค่ะติดเงินค่ากับข้าวแม่เหมือนกันค่ะลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ แล้วยังมีผู้ที่มาต่อคอมเมนต์อีกว่า แถวนั้นโจรชุมกว่ายุงของจริง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นาย อนุชา ไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.ราษฎร์บูรณะ แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ฝากบอกด้วยว่าใครที่เคยตกเป็นเหยื่อของหัวขโมยรายนี้ แล้วทรัพย์สินสูญหายไปก็ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ อย่าปล่อยให้หัวขโมยรายนี้ได้ออกมาก่อเวรก่อกรรมกับใครได้อีก