ข่าวประชาสัมพันธ์ข่าวพาดหัวตรวจสอบอาชญากรรม

ผู้การปากน้ำสั่งล่าตัวโจรมารยาทดียกมือไหว้ขอสร้อยทอง อ้างจะเอาไปให้แฟนวันวาเลนไทน์

ผู้การปากน้ำสั่งล่าตัวโจรมารยาทดียกมือไหว้ขอสร้อยทอง อ้างจะเอาไปให้แฟนวันวาเลนไทน์
*** หมายเหตุ : เบลอหน้าหญิงเสื้อฟ้า ***
เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งเหตุชิงสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทอง ที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ( ร้านทองไฟรซ่าส์ ) ภายในตลาดแห่งหนึ่ง ( ตลาดร้อยชั่ง ) ถนนหนามแดง – บางพลี ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น


ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าตลาดดังกล่าว จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ พบว่าคนร้ายได้สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท 50 สตางค์ พร้อม พระเลี่ยมทอง จำนวน 2 องค์ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ออปโป้ จำนวน 1 เครื่อง และ เร้าเตอร์อินเตอร์เน็ต จำนวน 1 เครื่อง ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ที่จอดไว้บริเวณหน้าตลาดขี่หลบหนีไป ซึ่งคนร้าย เป็นชาย 1 ราย รูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมหมวกกันน๊อก แต่ใส่หน้ากากอนามัยปิดปังใบหน้า หลังเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูล จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บรายนิ้วมือตรวจสอบ
ภาพวงจรปิดภายในร้านทองแห่งหนึ่งภายในตลาดริมถนนหลังวัดหนามแดง ในตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ช่วงประมาณบ่ายสองของวันนี้มีชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วน สวมเสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขายาวสีดำ เดินถอดรองเท้าไว้ที่หน้าร้านทองก่อนจะเดินเข้ามาทำทีบอกกับทางร้านว่า ตนเองจะเอาสร้อยคอทองคำมาแลกเปลี่ยนเป็นสร้อยข้อมือเพื่อจะนำไปให้แฟนสาวในวันวาเลนไทน์ ตอนแรกก็ทำทีถามราคา จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินออกจากร้านไป พบอีกทีชายคนเดิมเดินกลับเข้ามารในร้านช่วงหกโมงเย็นกว่า แล้วมายืนคุยกับทางเจ้าของร้าน โดยจะขอดูสร้อยคอน้ำหนัก 1.5 บาท เส้นหนึ่ง เพื่อจะนำสร้อยคอน้ำหนักสองบาทที่อยู่กับแฟนสาวมาเปลี่ยน แต่แฟนสาวยังเดินทางมาไม่ถึง ผ่านไปไม่กี่วินาที คนร้ายรายนี้หันไปเห็นโทรศัพท์ของทางเจ้าของร้านวางอยู่จึงหันไปหยิบ จากนั้นจึงบอกกับทางเจ้าของร้านตนเองขอสร้อยคอเส้นดังกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้ โดยอ้างว่ามีความจำเป็น ระหว่างนั้นจะเห็นว่าชายคนร้ายรายนี้เดินเข้าไปเปิดกลอนประตูเหล็กด้านในเข้าไปประชิดตัวผู้สูงอายุในร้านทองพร้อมทั้งข่มขู่ ซึ่งผู้สูงอายุรายนี้พยามพูดคุยเกลี้ยกล่อมคนร้ายอย่าทำร้ายใครในร้านทอง แต่ในระหว่างที่พูดคุยขอสร้อยทองจากทางร้าน คนร้ายหันไปเห็นเจ้าของร้านเอื้อมมือไปกดสัญญาณเตือนภัย ทำให้คนร้ายเกิดอาการกลัวและข่มขู่ให้ทางเจ้าของร้านและผู้สูงอายุให้เข้าไปที่ด้านหลังร้าน โดยคนร้ายได้กระชากเลาเตอร์อินเตอร์เน็ตติดมือไปด้วย เพราะเข้าใจว่าเป็นเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดจากนั้นรีบขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
นางสาว กนกนภา เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า เขาจะเอาทองมาขายแล้วเปลี่ยนเป็น 1 บาทห้าสิบ เขาเข้ามาตอนบ่าย2 แล้วรอบนึงบอกว่าจะเอาทองมาขาย ตนบอกต้องเห็นทองก่อนถึงจะตีราคาได้ เขาเลยบอกจะเปลี่ยนทองแทนเป็น สร้อยคอ 1 บาท ข้อมือ 50 สตางค์ จากนั้นเขาหายไปพักนึงกลับมาช่วง 4 โมง แล้วบอกว่ารอแฟนเอาทองมาให้ แฟนขับรถหลง ตนก็ไม่กล้าออกไปไหน ตอนที่เขาเปิดประตูเข้ามา เขาบอกให้ตนเข้ามาข้างในเพราะไม่อยากทำร้าย แล้วยกมือไหว้ขอโทษ และบอกว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงิน เขาตนเข้าไป ตนเลยกดสัญญาณ พอเขาเห็นตนกดสัญญาณก็เลยไม่กล้ามาหยิบทอง และพยายามหากล้องวงจรปิดและเขาเอาโทรศัพท์ของที่ร้านไปด้วยกลัวตนโทรแจ้งตำรวจ เขาบอกว่ามีปืนตนก็กลัว

ส่วนอีกคน คือผู้สูงอายุที่คนร้ายเข้าประชิดตัว ซึ่งคุณป้าท่านนี้ *** ท่านขอเบลอหน้าและปิดชื่อ *** ท่านเล่านาทีตอนคนร้ายถึงตัว โดยบอกว่า ผู้ก่อเหตุมาทั้งหมด 2 รอบ รอบแรกมาแล้วก็กลับไปและก็บอกว่าเดี๋ยวกลับมาใหม่ ตอนแรกเขาบอกว่าเขาจะเอาสร้อยคอทองคำ 2 บาท มาเปลี่ยนเป็นสร้อยเส้นละบาทสองเส้น ตนจึงบอกว่าตนไม่มีเงินเขาจึงบอกว่าเดี๋ยวเขากลับมาใหม่ ท่าทีของเขาคุยดีมาก ตอนที่เขาก่อเหตุเขาผลักตนจนกระเด็นเข้าด้านใน ตนจึงทำการซ่อนโทรศัพท์อีกเครื่องไว้เพราะเดี๋ยวไม่มีโทร บอกคนอื่น ตอนที่เขายืนคุยกับตนเขาบอกว่าเขาจำเป็นต้องทำ ตนจึงบอกว่าอย่าทำเลย ตนไม่มีเงินไปใช้หนี้ เขาก็บอกว่าเขาจะไม่ทำตน ต้นบอกว่าอย่าทำตนเพราะตนเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว
ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ บอกว่าวันนี้เวลา 6 โมงกว่าๆ เราได้รับแจ้งว่ามีการวิ่งราวทรัพย์ร้านค้าทอง บริเวณตลาดร้อยชั่งหนามแดง ตนและผู้กำกับจึงมาที่เกิดเหตุ ได้ความว่าคนร้ายมีเพียงคนเดียวไม่มีอาวุธ เข้ามาก่อนรอบแรกตอน 15.00 น มาตกลงกับทางร้านว่า จะมาขอเปลี่ยนทองเป็นบาท 50 และที่เหลือจะเอาเงิน และมีการเลือกพระไว้ 2 องค์ ก่อนจะกลับไป และนัดมาอีกช่วง 17.00 น แล้วมีการเจรจาพูดคุยกันว่าจะเอาทองก่อน ของที่สั่งเอาไว้จำนวน 1 บาท 50 บาท สตางค์ ส่วนทอง 2 บาทของตนแฟนกำลังนำมา พอคนขายทองเริ่มสงสัย ผู้ก่อเหตุจึงทำการขู่ จากนั้นจึงเดินเข้าไปเอาทองและพระเลี่ยมทอง แล้วเขาได้ทำการหา เซิร์ฟเวอร์ ของกล้องวงจรปิด แต่ได้หยิบเร้าเตอร์ของกล้องวงจรปิดไป เบื้องต้นเขาไม่มีอาวุธ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางแก้วและสืบสวนของจังหวัด มาติดตามจับกุมตัวคนร้ายและใช้เวลาไม่น่าจะนาน และดูจากกล้องวงจรปิดตัวคนร้ายเองก็ไม่ได้มีการใช้ความรุนแรง
อยากฝากเตือนทางผู้ประกอบการ ให้ระแวดระวัง คนที่จะมาทำการซื้อขาย ในร้านทอง ควรบอกให้เขาถอดแมสได้จะดีมาก และควรมีราวเหล็กและลูกกรง แต่ร้านนี้มีราวเหล็กแค่ไม่ได้ล็อคเอาไว้ก็เท่านั้น คนร้ายจึงทำการผลักเข้าไปและเอาทองได้
*************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ