กรณีครูสาวร้องกันจอมพลัง ถูกภรรยา ผอ. วิทยาลัยเทคนิค ขับรถไล่ชนถูกทำร้ายร่างกาย
คืบหน้าล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีนั้นทางพนักงงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการผู้ที่ถูกกระทำเรื่องบาดแผลที่ถูกกระทำ และกำลังนัดทั้งคู่มาให้มาพบเพื่อพูดคุยในเบื้องต้น ซึ่งจริงๆข้อหาก็ไม่ได้หนักหนาอะไร คือ เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ซึ่งสามารถเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายที่ต้องยินยอมด้วย แต่ถ้าไม่ยินยอมก็ต้องดำเนินคดีอาญา แจ้งข้อกล่าวหาของผู้กล่าวหาตามที่ปรากฎในคลิปที่ผู้เสียหายแจ้งความ ในส่วนค่าเสียหาย ทางคู่กรณีต้องพูดคุยกันเองทางตำรวจก็จะทำบันทึกข้อตกลง แต่ถ้าหากยอมความไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ ก็ต้องไปฟ้องร้องกันที่ศาล
ทั้งนี้ จากการสอบถามพ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผกก.สภ.หาดใหญ่ ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นที่มีกรณีการคอมเม้นต์ในโซเชี่ยลพาดพิงว่าตำรวจไม่ทำงาน หรือ ทำงานช้าในการเข้าตรวจสอบหรือช่วยเหลือผู้ที่ถูกกระทำนั้น ระบุว่า จริงๆแล้วระบบการทำงานของตำรวจนั้น ไม่จริงที่จะไม่ทำงาน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือตำรวจต้องทำงานภายใต้หลักการหรือภายใต้กฎหมาย บางเรื่องบางคดีก็มีข้อจำกัดก็ว่ากันไปตามบริบทและหน้าที่ ยืนยันว่าตำรวจถ้าไม่งานก็ต้องถูกตรวจสอบและอยู่ไม่ได้ ซึ่งบางครั้งการทำงานอาจจะไม่รวดเร็วใจถูกใจประชาชน เหมือกับข่าวสารผ่านสื่อที่นำเสนอข่าวอย่างรวดเร็ว ยืนยันว่าตำรวจทำงานตามหลักการและอำนาจหน้าที่
ส่วนกรณีการที่ผู้เข้าคอมเมนต์ในโซเชี่ยลนั้น คนที่กระทบและเจ็บปวดกับเรื่องนี้ที่สุดคือ ตัวของบุคคลทั้ง 3 คน และครอบครัว ญาติพี่น้อง จึงฝากว่าให้คอมเมนต์อย่างมีสติ เห็นแก่ครอบครัวและผู้ที่อยู่ในคลิปด้วย
พี่เสือ นักข่าว สงขลา