พะเยา – คดี “น้องข้าวฟ่าง” วัย 6 ขวบ ถูกอนาจาร ยังวุ่นไม่เลิก
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ค ชื่อ “อีซ้อขยี้ข่าว”ได้โพสต์ข้อความว่า ”น้องข้าวฟ่าง 6 ขวบ หายตัวลึกลับขณะอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.พะเยา ทางครูกับแม่และอาไปแจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่น้องหายไปวันแรก ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือนเต็มยังไม่พบวี่แววว่าจะเจอตัวน้อง ส่วนครูได้บอกกับอาและแม่ว่าก่อนที่น้องจะหายไปพบรอยเขียวที่คอคาดว่าน่าโดนทำร้าย ส่วนทางโรงเรียนสั่งปิดเรื่องนี้เงียบ พร้อมกับคดีความที่ไม่คืบหน้าฝากผู้สื่อข่าวตามเรื่องนี้ให้หน่อย ส่วนใครที่พบเห็นเด็กคนนี้แจ้งเบาะแสมาได้”จนทำให้มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และแชร์ข้อความนี้เป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ. วสวัตติ์ จันทร์ต๊ะฝั้น ผกก. สภ.ปง จว.พะเยาผู้กำกับ เล่าว่า ได้รับการประสานจากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ ซึ่งประจำชั้น ได้มาปรึกษาถ้าพูดกลับ และทางในอำเภอ ว่าเด็กมีพฤติกรรมแปลกๆชอบจับอวัยวะของตัวเอง และชอบไปกอดเด็กเพื่อนๆ ร่วมห้อง และทางโรงเรียนได้แจ้งทางผู้ปกครองเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็ก ไปแล้ว จนมาเดือนมกราคม ที่ผ่านมา น้องข้าวฟ่าง มีรอยที่คอ ทางครูประจำชั้น จึงประสาน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา เพื่อนำเด็กไปดูแล
หลังจากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ความว่าทุกวันหลังจากเด็กเลิกเรียนมาแม่บุญธรรม เด็กก็จะให้อยู่กับ พี่ชาย และหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ ก็ไม่รู้ว่าพี่ชายจะเลี้ยงดูเด็กยังไงดีหรือไม่ดี แต่ที่สังเกตน้องข้าวฟ่างมีรอยที่คอ เหมือนถูกรัดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองจึงได้ตัดสินใจนำน้องข้าวฟ่าง ไปให้บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยาดูแล รักษาสภาพจิตใจ หลังจากน้องข้าวฟ่าง สามารถให้การได้ จึงได้ความว่ามีการทำอนาจาร จากพี่ชาย ปลายเดือนมกราคมทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกหมายหมายจับพี่บุญธรรมคดีอนาจารน้องข้าวห่าง และต้นเดือน กุมภาพันธ์ ได้ทำตามขั้นตอนกฎหมายโดยมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพพนักงานสอบสวนหญิงชำนาญการ นักจิตเวช ได้สอบสวนสัมภาษณ์น้องข้าวฟ่างอีกครั้งจนได้คำตอบว่าน้องข้าวฟ่างโดนล่วงละเมิดทางเพศ ได้นำข้อมูลตรงนี้มาเพิ่มสำนวนปัจจุบัน ซึ่งผู้ต้องหา ที่ทำอนาจารน้องข้าวฟ่าง เป็นพี่บุญธรรม อยู่แล้ว ส่วนทางโซเชียล ทางเจ้าหน้าที่ทางอำเภอและทางโรงเรียนได้มาตลอดเพราะไม่อยากให้กระทบจิตใจของน้องข้าวฟ่างซึ่งทางอำเภอปงเป็นอำเภอเล็กๆ ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ ที่รุนแรงเกิดขึ้น แต่ทางแม่บุญธรรมและแม่ของน้องข้าวฟ่างไม่ยอมหยุด และถ้ายังให้ข้อมูลเป็นเท็จต่อสังคม ต่อไปทางเจ้าหน้าที่คงต้องดำเนินการ ตามกฎหมาย
ด้าน นางสมพร(นามสมมุติ)อายุ 50 ปีเล่าว่า สำหรับคดีนี้ ทำไมทางเจ้าหน้าที่ ไม่มา ตรวจว่าผู้ชายในบ้านก็มีหลายคนทำไมต้อง จับลูกชายของตัวเองไป ทำไมไม่พาเด็กไปตรวจ พิสูจน์ ที่เชียงใหม่สำหรับลูกชายของตัวเองเป็นเด็กนิสัยดีชอบความสะอาด เวลา เวลาซื้ออะไรก็จะซื้อให้น้องฟ่างอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านั้นน้องฟ่างเคยอยู่กับพ่อและครอบครัวอยู่ด้วยกัน แต่หลังจากนั้นน้องสาวมีพฤติกรรมแปลกแปลก น้องข้าวฟ่าง มีนิสัยเหมือนผู้ใหญ่ฉลาด และดื้อมากๆ และมีพฤติกรรมชอบนำอวัยวะเพศไปถูกับเหล็กและสิ่งของต่างๆ บางครั้งก็นอนทับหมอนข้าง หรือตุ๊กตา และโยกตัวขึ้นลง เลียนแบบการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้าเกิดคนในบ้านเห็นจะต่อว่าและห้ามปรามตลอดและถ้าทำแบบนี้ แม่สมพร จะตีสอน เพื่อไม่ให้ทำแบบนั้นอีก ซึ่งคนในบ้านทุกคน รักน้องข้าวฟ้างมากทุกคน
จากการสอบถามนางสมพร ผู้เลี้ยงดู น้องข้าวฟ้าง บอกว่าทางโรงเรียน เข้าใจว่าคนในบ้าน ทำร้ายร่างกายเด็ก ตนจึงอยสกสอบถามโรงเรียนว่า ถ้าคิดว่าทางเราทำร้ายร่างกายเด็กทำไมไม่มาหาผู้ปกครองก่อนและนายแพทย์คนไหนเป็นคนตรวจ หลังจากที่เดินทางไปคุยที่โรงเรียนทางโรงเรียนตอบว่าให้หยุดเรื่องการลงโซเชียล เพราะทางโรงเรียนเสียหายทางนางสมพร จึงสอบถามไปยังโรงเรียนว่า ถ้ามีความจริงทำไมต้องกลัว
ด้าน น.ส. ชัญญาภัค แซ่ลี้ อายุ 35 ปี แม่ของน้องข้าวฟ้าง ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าเรื่องนี้ต้นจะขอสู้ในฐานะผู้เป็นแม่ให้ถึงที่สุดซึ่งวันนี้ตนต้องการนำลูกสาวกลับมาเลี้ยงเองเพราะตนมีความสามารถที่จะเลี้ยงได้ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนจะเดินทางไปที่บ้านพักเด็กจังหวัดพะเยาเพื่อติดต่อขอรับตัวลูกสาวกลับมาอยู่ในอ้อมอกอีกครั้งต่อไป
ปัญธิพงศ์ ศิริโชคธนากูล / พะเยา โทร. 0990505989
( สนใจลงโฆษณา โทร.081-6888600 )