โลมา คว้าชัย 4 ไฟต์ติด หลังใช้กราวน์เกมพิชิต นูนเญซ ศึก UFC FIGHT NIGHT
โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวไทยหนึ่งเดียวแห่งสังเวียน UFC พลิกสถานการณ์ด้วยการเทคดาวน์และการคอนโทรลภาคพื้นดินในยกสุดท้าย เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน อิสเตลา นูนเญส คู่ปรับจากบราซิล อย่างเป็นเอกฉันท์ ในศึก UFC FIGHT NIGHT : EMMETT VS MURPHY ณ สังเวียน UFC APEX, ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา
ศึกมวยกรงที่แฟนมวยชาวไทยพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นการกลับขึ้นสังเวียนของ โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวไทยวัย 29 ปีที่มีสถิติชนะ 9 แพ้ 3 (ใน UFC ชนะ 6 แพ้ 2) ที่ฟอร์มช่วงหลังกำลังร้อนแรงชนะมา 3 ไฟต์รวด พบกับ อิสเตลา นูนเญส วัย 32 ปีที่มาพร้อมสถิติชนะ 6 แพ้ 5
เปิดฉากยกแรก โลมา วางแข้งซ้ายเปิดทาง พร้อมออกหมัดชุดได้อย่างหนักหน่วง ขณะที่ นูนเญซ ก็เริ่มเกมด้วยการแลกแข้งกับ โลมา พร้อมกับอาศัยช่วงชกที่ยาวกว่า ดักทำลายจังหวะนักสู้หนึ่งเดียวจากแดนสยามเช่นกัน โดยในช่วงปลายยกแรก โลมา พยายามเทคดาวน์ แต่กลับพลาดลงไปโดน นูนเญซ คอนโทรลจนจบยก เข้าสู่ยกที่ 2 โลมา รุกไล่หนักขึ้น แต่รูปเกมส่วนใหญ่ติดอยู่ที่กรงทั้งคู่ทำอะไรไม่ถนัด ช่วงปลายแต่ยก โลมา มาได้เทคดาวน์ ก่อนระดมฟันศอก แต่ นูนเญซ ก็เอาตัวรอดด้วยการล็อกข้อเท้าของ โลมา ไว้ทำให้สาวไทยยังโจมตีไม่ถนัด
เข้าสู่ยกที่ 3 โลมา พลาดโดน นูนเญซ ลากลงพื้น แต่ระบบป้องกันตัวยังยอดเยี่ยมจนนักสู้จากบราซิลทำอะไรไม่ได้จนกรรมการตต้องแยกออกมา อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น โลมา ก็มาได้จังหวะเทคดาวน์ครั้งสำคัญ พร้อมกับขึ้นคอนโทรลประเคนอาวุธโดยเฉพาะศอกมวยไทยใส่คู่ต่อกรจากบราซิล จนสิ้นเสียงระฆังหมดยกสุดท้าย
ครบ 3 ยกกรรมการจะรวมคะแนนพร้อมกับชูมือให้ โลมา ลูกบุญมี เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน อิสเตลลา นูนเญซ ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ พร้อมกับเพิ่มสถิติเป็นชนะ 7 แพ้ 2 ในสังเวียนระดับโลกอย่าง UFC นอกจากนี้ยังเป็นการเก็บชัยชนะไฟต์ที่ 4 ติดต่อกันของนักสู้วัย 29 ปีจากบุรีรัมย์ด้วย
โดยหลังได้รับการชูมือ โลมา ลูกบุญมี กล่าวผ่าน พี่มะลิ ถึงความรู้สึกและเป้าหมายภายในปี 2025 กลางสังเวียน UFC ว่า
“นี่คือครั้งแรกที่พยายามทำกราวน์แอนด์พาวน์ (สู้ภาคพื้นดิน) โดยรวมก็โอเค เพราะอย่างเล่นเกมนอนสู้บ้าง ส่วนเป้าหมายแรกต่อไปจากนี้ ก็คืออย่างการขึ้นสังเวียนมากกว่า 1 ครั้ง อีกครั้งให้ได้ภายในปีนี้ เพราะที่ผ่านมาขึ้นสังเวียนปีไฟต์ก็ต้องพักเนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัด”
ขณะที่คู่เอกของรายการเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นเฟเธอร์เวท ระหว่าง จอช เอ็มเม็ตต์ ที่มาพร้อมสถิติชนะ 19 แพ้ 4 ที่พบกับ ลีโรน เมอร์ฟีย์ นักสู้ชาวอังกฤษวัย 33 ปี เจ้าของสถิติไร้พ่ายจากการชนะ 15 ไฟต์รวด โดยผลการต่อสู้ตลอด 5 ยกเป็น เมอร์ฟีย์ ที่ใช้ความสดและความปราดเปรียวว่องไวที่เหนือกว่าเป็นฝ่ายเบียดเอาชนะคะแนน จอช เอ็มเม็ตต์ ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์
ผลการต่อสู้อย่างเป็นทางการศึก UFC FIGHT NIGHT : EMMETT VS MURPHY
คู่หลักของรายการ
คู่เอก – รุ่นเฟเธอร์เวท
ลีโรน เมอร์ฟีย์ ชนะคะแนน จอช เอ็มเม็ตต์
รุ่นเฟเธอร์เวท
แพต ซาบาตินี ชนะคะแนน โจอันแดร์สัน บริโต
รุ่นแบนตัมเวท
ลี ชาง โฮ ชนะ TKO คอร์ตาเวียส โรเมียส ยกที่ 2
รุ่นมิดเดิลเวท
แบรด ตาวาเรส ชนะคะแนน เคราร์ล เมียร์แชร์ต
รุ่นฟลายเวท
โอเด ออสบอร์น ชนะ TKO หลุยส์ กูรูเร ยกที่ 2
รุ่นมิดเดิลเวท
ตอร์เรซ ฟินเนย์ ชนะคะแนน โรเบิร์ต วาเลนติน
คู่ประกอบรายการ
รุ่นฟลายเวทหญิง
ดิโอเน บาร์โบซา ชนะ TKO ดิอานา เบลบิตา ยกที่ 1
รุ่นเวลเตอร์เวท
รีส แม็คกี ชนะ TKO ดาเนียล ฟรุนซา ยกที่ 1
รุ่นสตรอว์เวทหญิง
โลมา ลูกบุญมี ชนะคะแนน อิสเตลา นูนเญซ
รุ่นแบนตัมเวท
วิคเตอร์ เฮนรี ชนะคะแนน เปโดร ฟัลเกา
รุ่นเฮฟวีเวท
มาร์ติน บูเดย์ ชนะคะแนน อูราน ซัลติบาลดิเยฟ
รุ่นสตรอว์เวทหญิง
ตาลิตา อเลนการ์ ชนะคะแนน วาเนสซา เดโมปูลอส
สำหรับรายการต่อไปจะเป็นการต่อสู้ภายใต้ศึก UFC 314 : VOLCANOVSKI VS LOPES คู่เอกของรายการเป็นการดวลกันระหว่าง อเล็กซานเดอร์ โวลคานอฟสกี อดีตแชมป์โลก UFC รุ่นเฟเธอร์เวท ดวลกับ ดิเอโก โลเปส ตัวอันตรายจากบราซิล ขณะที่รองคู่เอกน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเป็นการดวลกันในพิกัดรุ่นไลท์เวทระหว่าง ไมเคิล แชนด์เลอร์ จอมบ้าดีเดือดชาวอเมริกัน ที่จะพบกับ แพ็ดดี พิมเบล็ตต์ นักสู้จากอังกฤษืโดยจะระเบิดศึก ณ สังเวียน Kaseya Center, ไมอามี สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายนนี้ คู่หลักของรายการเริ่มเวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
แฟนหมัดมวยชาวไทยติดตามชมได้ทางช่อง TRUE SPORTS HD3 (668) และแอปพลิเคชั่น UFC Fight Pass รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ufc.com/event/ufc-314
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของ UFC Thailand ได้ที่
Facebook 👉 https://www.facebook.com/UFCThailand
Instragram 👉 https://www.instagram.com/ufcthailand