ข่าวพาดหัวจับกุม

หนุ่มยิงหัวแฟนสาว อ้างโมโห ขาดสติเพราะฤทธิ์ยา

หนุ่มยิงหัวแฟนสาว อ้างโมโห ขาดสติเพราะฤทธิ์ยา

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 เมษายน 2568

ร.ต.ท.สัขรกร กุมผัน รอง สว.(สอบสวน)สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ภายในบ้านเลขที่ 39/146 ซอยประชาอุทิศ 91/2 แขวงและเขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.จุมพล สินศิริพงษ์ ผกก.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทุ่งครุ แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาฯมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น ในห้องนอนชั้น 2 พบศพน.ส.ศศภัทร อินทร์วัล อายุ 35 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ สภาพนอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีเลือดหมูลายช้าง มีบาดแผลถูกกระสุนปืน ขนาด.38มม.ที่ขมับขวา1 นัดกระสุนฝังใน ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้นแบบลูกโม่ขนาด.38 ตกอยู่1กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่สายตรวจสน.ทุ่งครุสามารถควยคุมตัวได้ที่หน้าบ้านขณะกำลังจะขับรถหลบหนี เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากสน.ทุ่งครุไม่ถึง100เมตร จึงใช้เวลาถึงที่เกิดเหตุไม่ถึง2นาที

จากนั้นนำตัวขึ้นไปตรวจค้นในห้องพักพบใบป.4 ชื้อภรรยาเก่าของนายเทวันทร์ครอบครองอาวุธปืน4ใบ แต่พบเพียงอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ

สอบสวนนายเทวันทร์ ให้การว่า แต่ก่อนตนเป็นช่างทำทอง ต่อมาเลิกทำแล้วมาเปิดร้านขายไอศครีมอยู่ในตลาดกรุงกลาง ตืดกับสน.ทุ่งครุ รู้จักกับน.ส.ศศภัทร์ ได้ประมาณกลางปี67 ขณะไปเที่ยวบาร์ญี่ปุ่น ในซอยธนิยะ สีลม จึงเกิดชอบพอกัน น.ส.ศศภัทร อยากเลิกทำงานกลางคืน ตนจึงชวนมาอยู่ที่บ้าน ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยา ต่อมาแฟนสาวบอกว่าตั้งท้อง ตนดีใจมาก พาไปฝากท้องที่โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ช่วงเดือน ธ.ค.67 ขณะที่อยู่ด้วยกันก็มีปากเสียงกันบ้าง แต่ไม่รุนแรง จนกระทั่งต้นเดือน แฟนสาวได้หายออกจากบ้านไป1อาทิตย์ ไม่สามารถติดต่อได้เลย แล้วแฟนสาวก็กลับมาหา ทำให้ตนคิดมากว่าแฟนจะกลับไปทำงานแบบเดิม กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนนั่งทำความสะอาดปืน บังเอิญมีผู้หญิงส่งข้อความทางไลน์มาหาตน แฟนสาวเห็นจึงเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง แล้วตนก็เกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับแฟนสาวดังกล่าว รู้สึกเสียใจที่คิดเร็วไปจนต้องเสียทั้งเมียและลูกไปพร้อมกัน
เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งครุ แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และพรบ.อาวุธปืน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป