ชุมพร – ตร.ทล.ชุมพร จับสองหนุ่มรับจ้างขนแรงงานเถื่อนอัดมาเต็มตู้ 17 ราย รับสารภาพใช้ แอป ‘ด่านตรวจ’ เพื่อเลี่ยงด่าน
ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514
วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 03.00 น ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล. ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
เจ้าพนักงานตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. นำโดย ร.ต.อ.ปัญญาวุฒิ ทองคำ รอง สว. ส.ทล.4 กก. 2 บก.ทล., ด.ต.สายชล ตั้งวงค์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.พัทธนันท์ แดงกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.วงศ์วริศ ทรัพย์คนาสกุล ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,เจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชุมพร นำโดย พ.ต.ท.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.ชุมพร, ร.ต.ท.สานุพงษ์ บัวศรี รอง สว.ตม.ชุมพร, ด.ต.สัณชัย ซื่อตรง, ด.ต.ยุทธพงษ์ อบเชย, ด.ต.ศราวุฒิ เล่งระบำ ผบ.หมู่ ตม.ชุมพร
ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ 1.นาย วิวัฒน์ อายุ 34 ปี ชาวไทย เป็นผู้ขับขี่ 2. นาย ลิขิต อายุ 33 ปี ชาวไทย เป็นผู้โดยสาร 3. นาย เน เรน อาว อายุ 42 ปี สัญชาติ เมียนมา 4. นาย แตส ปาย อายุ 21 ปี สัญชาติ เมียนมา 5. นาย จอ มิ อายุ 55 ปี สัญชาติ เมียนมา 6. นาย โซ ลุย อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมา 7. นาย เท วิน อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมา 8. นาย กา แร่ อายุ 28 ปี สัญชาติ เมียนมา 9. นาย ซา ริน อายุ 24 ปี สัญชาติ เมียนมา 10. นาย เมา เต้ง อายุ 26 ปี สัญชาติ เมียนมา 11. นาย มา ตี ป้า อายุ 23 ปี สัญชาติ เมียนมา 12. นาย นอ ลี แซ่ อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา 13. นาย ซิน ยูม ซาน อายุ 19 ปี สัญชาติ เมียนมา 14. น.ส. โอม มา เต้ง อายุ 47 ปี สัญชาติ เมียนมา 15. น.ส. คีน ลี แง อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมา 16. น.ส. เฮ มา อายุ 32 ปี สัญชาติ เมียนมา 17. น.ส. เม ตะ ลุย อายุ 28 ปี สัญชาติ เมียนมา 18. น.ส. เจ นา อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมา 19. น.ส. รู กวย อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมา
โดยกล่าวหาว่า 1.นาย วิวัฒน์ อายุ 34 ปี ชาวไทย เป็นผู้ขับขี่ 2. นาย ลิขิต อายุ 33 ปี ชาวไทย เป็นผู้โดยสาร ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และแรงงานต่างด้าวทั้ง 17 ราย เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอานาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมด้วยของกลาง 1. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา ทะเบียน ผท 9293 นครปฐม 2. โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2401 ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) กม.ที่ 480+500 (ขาออก) ตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร พบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา ทะเบียน ผท 9293 นครปฐม ลักษณะบรรทุกของหนัก ขับแซงขึ้นมาในช่องทางขวาด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าลงใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบทะเบียนรถ พบว่า นายวิวัฒน์ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และพบว่ามีหมายจับของศาลแขวงสมุทรปราการ หมายเลข จ.213/2567 ลงวันที่ 28 พ.ย. 2567 จึงได้ขับรถติดตาม พร้อมส่งสัญญาณเรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อตรวจสอบ
เมื่อรถหยุด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า นายวิวัฒน์ เป็นผู้ขับขี่ และมีนายลิขิต เป็นผู้โดยสาร โดยผู้ขับขี่ไม่สามารถแสดงใบอนุญาตขับรถและบัตรประจำตัวประชาชนได้ทั้งนี้ได้ตรวจสอบหมายจับผู้โดยสารไม่พบหมายจับ ขณะตรวจสอบเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าผู้ต้องหามีท่าทีลุกลี้ลุกลนและแสดงพิรุธ อันเป็นเหตุอันควรสงสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอทำการตรวจค้น โดยได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหาทั้งสองผลการตรวจค้น พบบุคคลต่างด้าวอยู่ในกระบะตู้ทึบจำนวน 17 ราย แบ่งเป็นชาย 11 ราย หญิง 6 ราย จึงควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดพร้อมรถของกลางมาสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อดำเนินการตรวจสอบโดยละเอียด
จากการสอบถาม นายวิวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า บุคคลต่างด้าวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางและเข้ามาโดยผิดกฎหมาย รับว่าตนพร้อมด้วยนายลิขิต ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลชาวเมียนมา ให้ไปรับบุคคลต่างด้าวบริเวณมหาชัยเมืองใหม่ ในเวลา 13.00 น. โดยได้รับค่าจ้างรวมเป็นเงิน 40,000 บาท แบ่งเป็น ได้รับเงินค่าน้ำมันล่วงหน้า 10,000 บาท ส่วนเงินค่าจ้างส่วนที่เหลืออีก 30,000 บาท จะโอนให้หลังจากส่งบุคคลต่างด้าวถึงจุดหมายปลายทางแล้วสองวันโดยจุดหมายปลายทางที่กำหนดคือรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเมื่อถึงจุดหมายให้ติดต่อบุคคลปลายทางทาง จากการสอบถามเพิ่มเติม ผู้ถูกจับให้การว่า ในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ถูกจับได้ใช้วิธีตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้า โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ แอปพลิเคชัน “ด่านตรวจ” และ “Traffic D Pro” เพื่อดูข้อมูลจุดตั้งด่านตรวจ และเส้นทางการจราจร เพื่อลักลอบขนย้ายบุคคลต่างด้าวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายวิวัฒน์ กลั่นแสงทอง และนายลิขิต อุ่นเนื้อผู้ถูกจับในข้อหา“ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกจับที่ 3-19 เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอานาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป