ตำรวจชุดสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ โชว์ฟอร์มปิดคดีวัยรุ่นยกแก๊งค์รุมทำร้ายฟันมือหนุ่มร้านเครื่องมือช่าง ย่านประชาอุทิศ
วันที่ 4 มีนาคม 2564 เวลา 13.00 น. สืบเนื่องจากเหตุการณ์ หนุ่มพนักงานร้านเครื่องมือช่างพลาดท่าถูกแก๊งค์วัยรุ่นฟันแขนหวิดขาด กลางถนนประชาอุทิศ ย่านทุ่งครุ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 ช่วงเวลา 15.00 น. โดยประมาณ วันนี้ ช่วง เวลา 13.00 น.
พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย
ผกก. สน.ราษฎร์บูรณะ และ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ กลิ่นลำยงค์
สว.สส.สน.ราษฎร่บูรณะ พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้มีการจัดทำแผนของเหตุการณ์ในขั้นตอนของการเกิดเหตุในวันนั้น เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ อย่างเต็มที่เพราะหวั่นเกรงอาจจะเกิดการปะทะจากญาติของผู้บาดเจ็บ ในการทำแผนนั้นได้มีการปิดบังใบหน้าของผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ด้วยหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปีด้วยกันทั้ง 3 ราย แล้วบรรยากาศของการทำแผนในครั้งนี้จบลงด้วยดี และรวดเร็ว แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้ต้องหาทั้ง 3 รายขึ้นรถกลับ สน. ทันที
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วได้ความว่า จับกุมทั้ง 3 รายได้เมื่อวานนี้ หลังจากการสืบของชุดสืบสวนอย่างมั่นใจจึงขอหมายจับ พอหมายจับออกมาแล้วจึงรีบรุดจัดกำลังเข้าจับกุมทันทีที่บ้านพักแถวย่านประชาอุทิศ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยังเป็นเด็กและเยาวชนอยู่จึงไม่สามารถที่จะเปิดเผยชื่อให้กับสื่อมวลชนได้ จึงจำเป็นต้องสงวนชื่อ และนามสกุลของทั้ง 3 คน เอาไว้ แล้วทั้ง 3 คน ก็ยินยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี โดยบอกว่า ที่ทำลงไปเป็นเพราะบันดาลโทสะและไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายผู้บาดเจ็บถึงขนาดนั้น เป็นเพราะวันที่เกิดเหตุพวกตนขับขี่รถจักรยานยนต์ สวนทางกันแล้ว ฝ่ายของผู้บาดเจ็บเองได้ชูนิ้วกลางให้กับพวกตนแล้วให้ของสงวน ตนเองและเพื่อนเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงรู้สึกโมโหก็เลยขับขี่รถไล่ตามกันมา พอถึงที่เกิดเหตุผู้บาดเจ็บก็ไปเฉี่ยวกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีขาว จนรถคันดังกล่าวได้รับความเสียหาย แล้วรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บก็ล้มลง เมื่อพวกตนเห็นอย่างนั้นก็เลยใช้อาวุธมีด ที่ตนเองพกมาฟันเข้าไปทันที แต่ผู้บาดเจ็บเอามือยกขึ้นมากันเอาไว้จึงทำให้ฟันไปโดนที่ข้อมือทันที แล้วผู้บาดเจ็บก็ลุกขึ้นวิ่งหนีไป พวกตนก็พยายามวิ่งไล่ตาม แต่เพื่อนของผู้บาดเจ็บได้จุดประทัดขนาดใหญ่โยนเข้ามาใส่พวกตน และก็เกิดเป็นเสียงคล้ายระเบิด พร้อมกับควักปืนขึ้นมา เมื่อเห็นและได้ยินแบบนั้นตนกับเพื่อนจึงได้ขับขี่รถหนีออกจากที่เกิดเหตุทันที
ส่วนการให้การของเด็กทั้ง 3 คนที่เป็นผู้ก่อเหตุการณ์นี้ขึ้นมา สอดคล้องกับการให้การของพยานในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แบบใกล้เคียงกัน แล้วยังสอดคล้องกับการให้การของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวที่ได้ยินเสียงคล้ายระเบิด และอาวุธปืน แต่ไม่ทราบของฝ่ายใด
แต่อย่างไรแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และ พกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะ แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และพร้อมจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.