เชียงราย – หวิดปะทะหน้าโรงพัก
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 มีนาคม 2564 ได้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ประตูล้อ
ม. 21 ต.ป่าอ้อดอนไชย อ.เมือง จ.เชียงราย ภายหลังจาก เจ้าของตลาดประตูล้อ ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีชาวบ้านบุกมารื้อซุ้มเฉลิมพระเกียรติที่ใช้ติดรูปพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 จนตำรวจต้องรีบไปดูที่เกิดเหตุ ภายหลังจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าชาวบ้านกว่า 30 คนแสดงอาการไม่พอใจกับเจ้าของตลาดประตูล้อผู้ที่โทรแจ้ง
นางจินดา อินทรักษาทรัทย์ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 21 บ้านประตูล้อ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าซุ้มเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวสร้างมายาวนานหลายปีแล้วซึ่งเดิมทีเป็นโครงไม้และเป็นเสาไม้แต่เนื่องจากว่าเกิดการผุพังตามกาลเวลาซึ่งชาวบ้านหลายคนเกรงว่าซุ้มดังกล่าวจะล้มลงมาแล้วทำให้รถและประชาชนที่สัญจรไปมาได้รับความเสียหาย
จึงมีการประชุมหารือกันภายในหมู่บ้าน ขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยในที่ประชุมลงมติ ที่จะสร้างใหม่เพื่อให้สมพระเกียรติกับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งชาวบ้านมีการบริจาคทรัพย์กันคนละเล็กละน้อยเพื่อนำเงินมาสร้างขึ้นใหม่โดยใช้เป็นเสาปูนและโครงเหล็กเพื่อให้คงทนถาวร ส่วนรูปพระบรมฉายาลักษณ์ ก็มีเจ้าภาพทำให้ใหม่ฟรี
และในเช้าวันนี้
ชาวบ้านได้รวมตัวกันเป็นจิตอาสามารื้อซุัมเพื่อที่จะสร้างใหม่แต่ก็ถูกเจ้าของตลาดประตูล้อโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบว่าการรื้อซุ้มป้ายเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ด้านนายมาโนชญ์ โตยัง อายุ 60 ปี
เจ้าของตลาดประตูล้อ ที่อยู่ติดถนนใหญ่ปากทางเข้าหมู่บ้าน
และมีพื้นที่ติดอยู่กับป้ายซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ
จนเกิดเรื่องโกลาหลวุ่นวายในครั้งนี้ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
วันนี้ตนไม่ทราบว่ากลุ่มคนที่มารื้อซุ้มรูปพระบรมฉายาลักษณ์มีความต้องการอะไรแต่ในเมื่อตนเห็นว่ามีการรื้อตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบถึงสาเหตุของการรื้อว่าถูกต้องหรือไม่และมีข้อสงสัยว่าก่อนจะรื้อทำไมไม่ติดป้ายให้ชาวบ้านได้รับทราบซึ่งตนอยู่ในหมู่บ้านนี้ตนไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน
ทั้งนี้ตนไม่ได้กล่าวหาใครหรือไม่ได้ว่าใครแต่ตนมีความสงสัยจึงแจ้งในฐานะพลเมืองดีที่จงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งตนไม่มีเจตนาร้ายแอบแฝงอย่างแน่นอนส่วนเรื่องใครผิดใครถูกต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเพราะไม่ใช่หน้าที่ของตน
ไปหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงจึงได้เชิญผู้ใหญ่บ้านพร้อมชาวบ้าน และ นายมาโนชญ์
ไปให้การที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในการกระทำดังกล่าว
จากการสอบถามชาวบ้านหลายคนให้การว่าเจ้าของตลาดประตูล้อมีพฤติกรรมชอบแกล้งชาวบ้านและชอบร้องเรียนทุกเรื่อง เส้นทางหมู่บ้านสร้างสถานที่ขายของเพื่อให้ชาวบ้านได้มาขายและนำเงินเข้าหมู่บ้านก็ถูกร้องเรียนชาวบ้านมาจอดรถซื้อของริมถนนก็ถูกร้องเรียน โดยร้องเรียนทุกเรื่องแต่ไม่เคยมาเข้าร่วมประชุมกับหมู่บ้านเลยสักครั้ง
และก็ไม่เคยช่วยเหลือหมู่บ้านไม่เคยบริจาคเงินสักบาท หรือไม่เคยเสียสละกำลังกายมาช่วยหมู่บ้านเลยสักครั้ง จนทำให้ชาวบ้านเอือมละอายในพฤติกรรมดังกล่าว แต่ชาวบ้านหลายๆคนก็ต้องจำใจทนเพราะคนในหมู่บ้านก็ไปเช่าที่ในตลาดประตูล้อของนายมาโนชญ์ เพื่อขายของดำรงชีพ ชาวบ้านยังให้การกับผู้สื่อข่าวอีกว่า หากคนที่ขายของอยู่ในตลาดประตูล้อไปขายของที่ตลาดอื่นหากจับได้จะถูกขับไล่ให้ออกไปจากตลาดซึ่งทำให้ชาวบ้านอาจจะต้องเดือดร้อนจึงต้องยอมทนมาโดยตลอด
ซึ่งมีชาวบ้าน กว่า 50 คน เดินทางตามมาที่ สภ.เมืองเชียงราย ในขณะที่ชาวบ้านกำลังทยอยเดินทางมาเป็นขนาดเดียวกันกับที่นายมาโนชกำลังจะเดินเข้ามาภายใน สภ.เมือง ได้เกิดมีปากเสียงกับชาวบ้านโดยมีการโต้เถียงกันไปมา ชาวบ้านมีการโหนร้องขับไล่เพราะไม่พอใจในการกระทำที่มาขัดขวางการพัฒนาของหมู่บ้านในครั้งนี้และอีกหลายๆครั้งที่ผ่านมาซึ่งชาวบ้านให้การกับผู้สื่อข่าวว่านายมาโนชร้องเรียนทุกเรื่องจนทำให้ชุมชนหมู่บ้านประตูล้อไม่สามารถพัฒนาอะไรได้เหมือนหมู่บ้านอื่น ซึ่งเหตุการณ์การโต้เถียงตันเกิดขึ้นบริเวณทางขึ้น สภ.เมืองเชียงราย
จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย ต้องเข้ามาระงับเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มชาวบ้านและนายมาโนชเจ้าของตลาดประตูล้อ
พ.ต.ท. อดุลย์ จินดาหลวง สว.สอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้เชิญผู้นำหมู่บ้านพร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านและนายมาโนชเจ้าของตลาดประตูล้อเข้าไปพูดคุยเพื่อหาทางออก ในเรื่องดังกล่าว
ทีมข่าวทั่วไทยนิวส์ จ.เชียงราย รายงาน
( สนใจลงโฆษณา โทร. 081-6888600 )