พระเทพวิสุทธิกวี เมตตาผู้เช่านาในที่วัด ยกค่าเช่าให้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
วันที่ 7 มี.ค. 64 พระเทพวิสุทธิกวี (ถาวร อธิวโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี มอบหมายให้คณะกรรมการวัดโพธิ์ศรี ประกอบด้วย ประธาน : พลโทโกศล มีจุล, รองประธาน:นายสมศักดิ์ ภักดีรักษ์, และกรรมการ จัดประชุมผู้ทำธุรกรรมการเช่านา เช่าที่ดินปลูกสร้างบ้าน เช่าที่ดินทำร้านค้าและเช่าที่อยู่อาศัย โดยการทำสัญญาเช่ากับทางวัดโพธิ์ศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 50 คน โดยสรุปผลการประชุมว่า พระเทพวิสุทธิกวี ให้แจ้งแก่ผู้ทำธุรกรรมการเช่าทุกประเภท ทุกท่านว่าปีนี้วัดโพธิ์ศรี จะยกค่าเช่าให้ด้วยรับทราบในสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้ทุกท่านลำบากในการประกอบอาชีพ แต่เพื่อเป็นสิริมงคล จึงขอเก็บค่าเช่าทุกประเภท ท่านละ 9 บาท ทำให้ผู้เช่าหลายคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นที่ปลื้มใจแก่ผู้เช่าที่อย่างยิ่ง ผู้เช่าที่ต่างอวยชัยให้พรในความเมตตา ของท่านเจ้าคุณ ที่ท่านเจ้าคุณได้เห็นถึงความยากลำบากในการประกอบอาชีพปีนี้ ด้วยโรคระบาดและเศรษฐกิจ ทำให้ การเงินฝืดเคืองอย่างมาก เมื่อได้ยินว่า พระเทพวิสุทธิกวี เก็บค่าเช่า 9 บาท ทั้งปลื้มใจและดีใจอย่างบอกไม่ถูก
สำหรับประวัติ วัดโพธิ์ศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี นั้น เป็นวัดธรรมยุต นิกาย มีหลวงพ่อนาค เป็นพระปางนาคปรก อายุกว่า 1,000 ปี และมี หลวงพ่อลา อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งพระผู้ใหญ่ในวัดบวรราชนิเวศ จะเดินทางมาดูแลเป็นประจำ และ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเคยเสด็จพระราชดำเนิน และ และ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีผูกพัทธสีมาอุโบสถ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2512 นอกจากทรงพระมหากรุณาปิดทองและทรงตัดลูกนิมิตกลางอุโบสถแล้ว ได้เสด็จออกหน้าอุโบสถ แล้วก็โปรดเสด็จตัดลูกนิมิตทั้ง 8 โดยมีพระสังฆราชฯ เป็นผู้สวดนิมิต นับว่าเป็นวัดแรกในรัชกาลที่ทรงตัดนิมิตทั้ง 9 ลูก รอบพระอุโบสถเป็นวัดแรก และในกาลต่อมา พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดิษฐานที่หน้าบัน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวจังหวัดสิงห์บุรียิ่งนัก
ณัฏฐนารา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี
