ข่าวทั่วไป

สาวพม่าแม่ลูก2 เครียดแฟนหนุ่มตกงานคว้าไม้หวดลูกสาววัย5ขวบไม่ยั้งมือ

สาวพม่าแม่ลูก2 เครียดแฟนหนุ่มตกงานคว้าไม้หวดลูกสาววัย5ขวบไม่ยั้งมือ

 

วันที่ 14 มีนาคม 2564 เวลา 22.30 น. พันตำรวจโท สุทธิรัตน์ อรทัย สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเด็กหญิงวัย 5 ขวบโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในอพาทร์เมนต์ แห่งหนึ่งท้ายซอยประชาอุทิศ27 จึงเร่งรัดจัดกำลังพร้อม อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดบริเวณด้านล่างของอพาทร์เมนต์ ชื่อ โอมแมนชั่น เป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีดาดฟ้าทำเป็นที่พักอาศัยของเจ้าของอาคาร เลขที่ 249/17 ซอย ประชาอุทิศ 27 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ จังหวัดกรุงเทพมหานคร พบผู้บาดเจ็บเป็นเด็กหญิง วัย 5 ขวบ 1 ราย ทราบชื่อ ต่อมาชื่อดญ.ดาว เป็นชาวเมียนม่า อยู่ในอาการหวาดผวา มีร่องรอยการโดนทำร้ายเป็นรอยช้ำเขียวม่วงไปทั้งตัว และที่บริเวณ ตาทั้งสองข้างบวมปูดปิดสนิท อยู่ในอาการตกใจกลัวแบบสุดขีด และมีประชาชนที่อยู่ในอาคารหลังดังกล่าวช่วยกันปลอบใจและนำขนมมาให้กิน รอให้อาสาสมัครมาช่วยเหลือกันอยู่บริเวณด้านล่างของอาคารซึ่งดัดแปลงเป็นร้านค้าขายของชำ และภายในร้านค้ายังพบกับพ่อของเด็กหญิงคนดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสา อย่างใจจดใจจ่อด้วยความรักและเป็นห่วงลูก ทราบชื่อ ผู้เป็นพ่อต่อมาชื่อนาย โซ มิน นาย เป็นชาวเมียนม่า อายุ 34 ปี อดีตเคยเป็นพนักงานของโรงงานสกรีนเสื้อแห่งหนึ่งย่านประชาอุทิศ

 

อาสาสมัครจึงเร่งรัดจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือหนูน้อยวัย 5 ขวบทันทีแล้วนำส่งต่อที่โรงพยาบาลเจริญกรุง อย่างเร่งด่วนต่อไป

จากการสอบถามนาย โซ มิน นาย กล่าวว่าตนอยู่กินกับภรรยา ชื่อนาง ซิน มา โซ อายุ 28 ปี จนมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตชื่อ ดญ.ดาว อายุ 5 ขวบ ส่วนคนเล็กชื่อ ดญ.นางฟ้า อายุ 6 เดือน เมื่อ 2 เดือนก่อนตนไปรับมาจากพม่าเพื่อมาอยู่ด้วยกันที่แมนชั่นแห่งนี้ แล้ว ให้นางซิน มา โซ เลี้ยงลูกทั้ง 2 คน อยู่ภายในห้องแล้วไปขอแบ่งงานจากโรงงานสกรีนเสื้อที่ตนทำงานอยู่มาให้ทำ เป็นงานเบาๆแค่แพ็คเสื้อที่สกรีนแล้วใส่ถุง ส่วนตนเองก็ไปทำงานที่โรงงานสกรีนแห่งนี้ในตำแหน่งช่างสกรีนเสื้อ จนกระทั่งเมื่อ 2 วันที่แล้วทางโรงงานได้มีการลดจำนวนพนักงานลงเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ตนเลยตกงาน ภรรยาก็เลยเกิดความเครียดแล้วได้ทำร้ายลูกของตนเอง แรกๆก็เป็นแบบตีเล็กๆน้อยๆ ไม่ถึงกับขนาดนี้ตนเองก็ได้ห้ามปราบและต่อว่าไปบ้างแล้วก็คิดว่าจะคุยกันเข้าใจแล้ว พอมาวันนี้ตนได้ออกไปละหมาดที่สุเหร่า เพราะตนนับถือศาสนาอิสลาม เมื่อเสร็จแล้ว ตนก็เดินทางกลับ มาที่แมนชั่นก็พบว่าลูกสาวของตนถูกภรรยาของตนทำร้ายจนเป็นแบบนี้ ส่วนลูกสาววัย 6 เดือนภรรยาก็พาหนีไปด้วยโดยไม่รู้ชะตากรรมตอนนี้ตนเป็นห่วงลูกสาววัย 6 เดือนมากไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

 

และจากการสอบถามนางสาว ธนิดา ธรรมธิติกรกุล อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้องร้านค้า กล่าวว่า ตนเห็นว่าเด็กคนนี้มีร่องรอยเขียวช้ำอยู่บ่อยมาตลอดระยะเวลา 3 เดือน เห็นทุกวันแล้วเคยถามนะว่าไปโดนอะไรมา แต่เด็กก็ไม่เคยปริปากบอกเลยว่าโดนแม่ทำร้าย และจากการสังเกตุพฤติกรรมของเด็กคนนี้บอกเลยว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กที่ขยันมากถึงแม้จะอายุเพียง 5 ขวบ ก็ซักผ้าเองได้แล้ว และคอยเลี้ยงน้องวัย 6 เดือนอยู่ตลอดเวลาไม่เคยปล่อยให้น้องอยู่คนเดียวลำพังเลย คือทำงานบ้านทุกๆอย่างเลย ไม่น่าเชื่อว่าแม่ของน้องจะเป็นคนโหดร้ายแบบนี้เห็นว่าหน้าตาก็สะสวยทำไมใจร้ายจัง

 

ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องราวเอาไว้แล้วและเร่งติดตามหาหญิงคนดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็กวัย 6 เดือนที่นำไปด้วย คาดว่าน่าจะไปไม่ได้ไกล ส่วนเรื่องของคดียังไม่สรุปและยังไม่ได้แจ้งขอหาใดๆกับใครต้องรอให้ได้ตัวแม่ของเด็กมาก่อน ถึงจะสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดความเป็นมาอย่างไร และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

 

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว. กทม.