(สระแก้ว) – ไม่ทนอีกแล้วโว้ย” ชาวบ้านร้องเรียนปัญหามลพิษ”
“สระแก้วชาวบ้านในพื้นที่ ม.10 ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ร้องเรียนปัญหามลพิษ
“ผู้สื่อข่าวรายงาน” ภายหลังชาวบ้านในพื้นที่ ม.10 บ้านโรงโม่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ทำหนังสือร้องทุกข์ปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหามลพิษ ฝุ่นละอองจากกากอ้อย เสียงดัง คราบน้ำตาลปลิวมาติดเสื้อผ้าทำให้เกิดอาการคัน และปัญหากลิ่นเหม็นจากโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักเพียง 200-300 เมตร เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา และนายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ส่งหนังสือตอบกลับผู้ร้องเรียนมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 แจ้งว่า ได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งมีการลงพื้นที่ไปที่บ้านของชาวบ้านที่เดือดร้อน เมื่อช่วงเย็นวาน ที่ผ่านมา หลังคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ และลงพื้นที่ไปตรวจสอบภายในโรงงาน และบริเวณโดยรอบโรงงานเสร็จสิ้น
” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีชาวบ้านร้องเรียนปัญหามลพิษดังกล่าว ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว ปลัดอาวุโสอำเภอวังสมบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 และเจ้าหน้าที่ของโรงงานน้ำตาล โดยช่วงก่อนเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบดังกล่าว มีการนำรถน้ำจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาฉีดน้ำบริเวณแนวรั้วผ้า สแลน กันฝุ่นรอบกองกากอ้อย เพื่อไล่ฝุ่นกากอ้อยรอบโรงงานด้วย รวมทั้งมีการเดินเครื่องทำงานน้อยกว่าปกติ ซึ่งชาวบ้านที่เดือดร้อนได้พาเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จังหวัดและศูนย์ดำรงธรรมฯ ไปดูฝุ่นที่เกาะบนเบาะรถจักรยานยนต์และร่องรอยคราบน้ำตาลที่ต้นไม้ใกล้บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า อยู่ระหว่างส่งไปตรวจสอบ พร้อมกับรับปากว่า จะให้โรงงานมีการแก้ไขต่อไป แต่เนื่องจากวันที่ 25 มี.ค.นี้ ทางโรงงานจะมีการปิดหีบอ้อยแล้ว ชาวบ้านอาจจะได้รับผลกระทบน้อยลง
ด้าน นางนิกร อ่อนคง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 ม.10 ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากโรงงานเพียง 200-300 เมตร กล่าวว่า ปัญหาที่ได้รับผลกระทบคือฝุ่นละออง เสียงดัง พอย่างเข้าหน้าฝนเริ่มจะมีกลิ่นเหม็นมา ซึ่งฝุ่นละอองเกิดขึ้นทุกวัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดร้องเรียน แต่ทนไม่ไหวจริง ๆ เพราะปีนี้เยอะกว่าทุกปี เมื่อก่อนขายของที่ชลบุรี พอ กลับมาอยู่บ้านและปีนี้เจอตั้งแต่เริ่มเปิดหีบมา ปัจจุบันจึงโดนแบบเต็ม ๆ ส่วนเสียงดังลักษณะเหมือนเคาะเหล็กกระแทกดัง ๆ และเสียงเครื่องจักร เวลาเดินเครื่องจะดังเหมือนเครื่องสีข้าวโพดสมัยก่อน บางครั้งดังจนนอนไม่ได้ ต้องสะดุ้งตื่นตอนที่เราหลับ ๆ อยู่ เพราะว่ามันดังมาก ส่วนคราบน้ำตาลที่ปลิวมา ก่อนหน้าจะไปร้องเรียน เป็นคราบน้ำตาลปลิวมาตกที่รถหน้ากระจก จะเหมือนน้ำค้าง พอเอามือไปแตะดูจะเหนียว ๆ สาย ๆ หลังโดนแดดจะเริ่มแห้ง ก็จะเป็นเกล็ดน้ำตาลเลย เสื้อผ้าที่ตาก ทุกวันนี้ต้องเอาผ้าคลุมไว้ พอร้องเรียนไปตอนแรก ก่อนไปศูนย์ดำรง ธรรมฯ หลังมีคนโพสต์เฟซบุ๊ก ทางโรงงานก็ส่งพนักงานมาดูให้ พนักงานลองเอาลิ้นไปแตะที่ใบไม้ ยังบอกว่าหวานจริง ๆ เค้าบอกว่าจะแก้ไขให้ คราบน้ำตาลก็หายไป เหลือแค่ฝุ่นละออง แล้วก็เอารถน้ำมาฉีด ตามถนน แต่ก็ไม่ได้ช่วยเรื่องฝุ่นละอองที่มาจากกากอ้อยได้เลย
“อยากให้เค้าดำเนินการแก้ไข จริงๆ พวกฝุ่นละออง เสียงดัง ให้เราอยู่ได้ ต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกันได้บ้าง ฝุ่นก้อ อยากให้น้อยลง น้อยลงให้มากที่สุดที่มากระทบเรา เพราะตอนทำ(EIA) บอกว่า สามารถจัดการปัญหาพวกนี้ได้ จะไม่มีผลกระทบเลย แต่พอเปิดจริง ๆ กลับมีผลกระทบกับชาวบ้านมาก “ตากเสื้อผ้าไว้ฝุ่นจะเกาะขาวหมด ฝนตกจะมีกลิ่นทั้งวันเลย” นางนิกร ผู้เดือดร้อน กล่าวพร้อมกับเปิดเสื้อให้ดูที่บริเวณท้องและหลัง ซึ่งได้รับผล กระทบ มีอาการคันจากฝุ่นกากอ้อย เช่นเดียวกับ เด็กชายอีก 1 ราย ที่มีผื่นขึ้นที่ช่วงแขนจากปัญหาเดียวกันด้วย
” อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่ร้องเรียน ยังบอกว่าด้วยว่า ที่ผ่านมาถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่หลังร้องเรียนด้วย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังสมบูรณ์ หลังจากที่เรียกชาวบ้านในฐานะผู้ร้องเรียนไปสอบถาม ได้ข่มขู่ว่า ถ้าเอาข้อมูลเท็จ มาร้องเรียนจะต้องมีความผิด แต่ตนก็ยืนยันว่า ได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ ส่วนถนนสายสหกรณ์ ด้านหลังโรงงาน เส้นทางมาบ้านตนเอง ซึ่งเป็นถนนสาธารณะตั้งแต่ก่อนโรงงานมาตั้ง ช่วงที่ชาวบ้านขับรถยนต์ ผ่านมาบริเวณหลังโรงงาน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.วังสมบูรณ์ กำลังมาตรวจพื้นที่และเซ็นต์ตู้แดง ก็มีการโบกรถเรียกตรวจ พร้อมกับถามว่า ใช้ถนนเส้นนี้ไม่เกรงใจโรงงานบ้างหรือ ทั้งที่เป็นทางสาธารณะ ซึ่งตนไม่ทราบว่า ถนนเส้นนี้เป็นของเอกชนไปแล้วหรือ เจ้าหน้าที่จึงต้องมาพูดแบบนี้กับประชาชน เสียภาษี น่าเสียใจจริงๆ
นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว