ข่าวทั่วไป

คืบหน้า ปิดซอยชุมชนบางทราย ซอย 57 ห้ามเข้า-ออก 14 วัน หลังเจอผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หวั่นกระจายไปในวงกว้าง

คืบหน้า ปิดซอยชุมชนบางทราย ซอย 57 ห้ามเข้า-ออก 14 วัน หลังเจอผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หวั่นกระจายไปในวงกว้าง

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 3 มิ.ย.64 จากกรณี วันที่ 2 มิถุนายน 2564 นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานะฉุกเฉินในพื้นที่เขตจังหวัดชลบุรี ได้มีคำสั่งที่ 30/2564 ได้กำหนด มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้สอดคล้องและเหมาะสมกับพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น ปัจจุบันได้รับรายงานข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่ามีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ภายในบริเวณพื้นที่ชุมชน ซอย 57 หมู่ที่ 5 ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อภายในชุมชนซอยดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อดังกล่าวซึ่งมีความเสี่ยงสูงเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคให้อยู่ ในวงจำกัด มิให้มีการแพร่ระบาดของโรคกระจายเป็นวงกว้าง จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 มาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัดชลบุรี จึงให้ปิดพื้นที่ชุมชนบริเวณซอย 57 หมู่ที่ 5 ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี” ไว้เป็นการชั่วคราว และห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออก ในพื้นที่ดังกล่าว เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ถึง วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564 สั่ง ณ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วันนี้เวลา 08.30 น.วันที่ 3 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังชุมชนบางทรายซอย 57 หมู่ 5 ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้พบกับนายปรีชา แซ่ตั๊น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ได้เปิดเผยว่าหลังจากที่มีคำสั่งให้ปิดซอยไม่ให้เข้า-ออกเป็นเวลา 14 วัน ก็เข้าใจว่าชาวบ้านมีความกดดันและเก็บกดในการกักตัวในซอยภายใน14 วันตามคำสั่งไม่สามารถออกจากซอยได้และคนนอกก็ไม่สามารถให้เข้าไปเช่นกันจึงทำให้ชาวบ้านมีความเครียดและมีบ้างที่ชาวบ้านเกิดมีอารมณ์มาโวยเจ้าหน้าที่โดยให้เหตุผลต่างๆแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยกันกล่อมและเจรจาให้ชาวบ้านเข้าใจถึงนโยบายและกฎหมายของการควบคุมโรคและทาง เทศบาลบางทรายก็จะจัดเตรียมของไว้ให้ชาวบ้านหากร้องขอส่วนน้ำและอาหารจะจัดเตรียมไง้ให้ตลอด 3 เวลาหากต้องการตอนไหนก็แจ้งมาได้เลยทางเจ้าหน้าที่จะจัดหาไว้ให้และส่งให้อย่างเร่งด่วนก็อยากจะบอกชาวบ้านที่อยู่ด้านในให้ดูแลตัวเองตลอดเวลาเดินออกนอกบ้านก็สวมแมสตลอดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อเพราะทางเจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันควบคุมไม่ให้แพร่ระบาดเชื่อไม่นานก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ทางด้านนางสาวบังอร บัวจันทร์ อายุ 34 ปีแม่ค้าขายข้าวถ้วยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้เปิดใจว่ายอมรับว่ากลัวและวิตกกังวนมากแต่ตนกับครอบครัวก็ได้ตรวจหาเชื้อแล้วแต่ผลเป็นลบไม่พบเชื้อแต่ก็ยังคงกังวนอยู่และช่วงนี้ทำให้การค้าขายเงียบมากเพราะอยู่ใกล้กับจุดเสี่ยงเพราะในซอยมีกลุ่มแรงงานต่างชาติเช่นกัมพูชาและชาวเมียนมาเยอะสาเหตุที่มีการแพร่ระบาดเยอะเกิดจากการที่กลุ่มแรงงานชอบทำอาหารแล้วทานด้วยกันเป็นกลุ่มจึงทำให้เชื้อแพร่กระจายเร็วแต่อย่างไรก็ตามตนก็เชื่อในฝีมือของเจ้าหน้าที่และของทางกรมควบคุมโรคจังหวัดชลบุรีว่าต้องเอาอยู่และมั่นใจว่าจะได้กลับมาเป็นปกติในเร็วๆนี้

และส่วนนางสาวน้ำ อายุ 40 ปีแม่ค้าขายข้าวต้มที่อยู่บริเวณจุดที่ตั้งเต๊นบริการก็ได้เปิดใจว่ายอมรับว่ากลัวมากแต่ตนและครอบครัวก็ได้ไปตรวจหาเชื้อมาแล้วผลเป็นลบไม่พบเชื้อร้านปลอดภัยแน่นอนอยากให้ลูกค้ามั่นใจมาซื้อทานได้ยอมรับว่าโควิดระลอก 3นี้ทำให้ได้รับผลกระทบมากยิ่งเชื้อมาอยู่ใกล้แบบนี้ยิ่งทำให้การค้าขายแย่ลงจากคนที่ไม่กล้าออกจากบ้านมาหาซื้อของไปกินตนก็มั่นใจว่าบางทรายจะกลับมาปกติได้ในเร็วๆนี้เพราะเชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่และเชื่อว่าพี่น้องชาวบางทรายต้องช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 ได้แค่เราทำตามคำสั่งและป้องกันตัวเองโดยการสวมแมสและหมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยเจลแอลกอฮอล์

 

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก