ปทุมธานี สพฐ.เข้าตรวจสอบไฟไหม้พบต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บเครื่องสำอางเสียหายกว่า50ล้าน
เมื่อเวลา 14.30น. วันที่ 8 มิถุนายน 2564 หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ปลูกติดกัน ซอยศูนย์การค้ารังสิตเลขที่ 259/68-80 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นโกดังเก็บเครื่องสำอางปลูกติดกันหลายคูหาซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.ท.เกรียงไกร แสงยศสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับ ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครรังสิต คณะกรรมการตรวจสอบความเสียหาย และเจ้าหน้าเทศบาลนครรังสิตที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ เพื่อสำรวจความเสียหายของตัวอาคารที่ได้รับเพลิงไหม้ และสั่งห้ามไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปภายในอาคารดังกล่าวเนื่องจากโครงสร้างได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายให้ทำงานอย่างระมัดระวัง เบื้องต้นได้สั่งปิดทางเข้าตลาดรังสิตบริเวณริมเขื่อนเพื่อป้องกันเหตุอันตรายจากตัวอาคารที่อาจทรุดลงมาได้ พร้อมทั้งยืนยันจะดูแลและให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง และเตรียมพร้อมเยียวยาตามระเบียบราชการ นอกจากนี้ยังมีรถดับเพลิงมาเตรียมไว้จำนวน 2 คันป้องกันเพื่อไฟจะลุกขึ้นมาอีกและนำแผงเหล็กมากั้นไว้ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในตัวอาคารเพราะเกรงว่าอาคารจะทรุดตัวลงมา
ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดไฟไหม้อีกครั้ง ร่วมกับ พ.ต.ท.เกรียงไกร แสงยศสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวเจ้าของร้าน ผู้จัดการร้าน และพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ ซึ่งอาคารหลังนี้เป็นน้ำยาทำผมและเครื่องสำอาง เสียหายไปจำนวนหลายคูหาและเสียหายมูลค่าประมาณ50 ล้านบาท ซึ่งต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานมาเพื่อรวบรวมคดีว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากอะไรกันแน่
ส่วน ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวว่า จากกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้ภายในตลาดรังสิตให้กองช่างเทศบาลนครรังสิตเข้าไปตรวจสอบเบื้อนต้นพบว่าเสียหายไปจำนวน 18 คูหา ส่วนใหญ่เป็นที่จัดเก็บสินค้า และมีบางส่วนที่เป็นที่พักอาศัย โดยไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดว่า 50-60 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าทีได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด และมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้มาจากอะไร นอกจากนี้จากที่กองช่างฯได้เข้าไปประเมินพบว่ามีบางส่วนต้องทุบเนื่องจากถูกเพลิงไหม้เสียหายหลักไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ เกรงว่าอาจจะถล่มลงมาทำให้เกิดอันตราย ขณะนี้ได้กั้นเขตเป็นพื้นที่อันตรายไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยังบริเวณดังกล่าว ซึ่งในช่วงเช้าเพลิงยังมีการลุกไหม้ขึ้นมาอีก แต่ขณะนี้ดับเพลิงได้ทั้งหมดแล้วแต่ยังให้ เจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัยยังเฝ้าติดตามอยู่เพราะเกรงว่า ไฟจะลุกขึ้นมาอีก.