นนทบุรี คืบหน้าลุงแท็กซี่สุดช้ำ เก๋งถอยหลังบนสะพานคู่กรณีรับผิดพาไปลงประจำวันชดใช้ค่าเสียหายกับถูกตร.แจ้งประมาทร่วม
จากเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 20 ก.ค.64 ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถแท็กซี่บนสะพานพระราม 4 ใกล้กับจุดทางลงเทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวกล้องวงจรปิด Pakkret CCTV ของเทศบาลนครปากเกร็ด สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุไว้ได้ เป็นรถเก๋งสีขาวเบรกหยุดรถจอดกลางสะพาน ก่อนที่จะค่อยๆถอยหลัง หลังจากนั้นก็มีรถแท็กซี่พุ่งเข้าชนด้านท้ายอย่างแรง
เบื้องต้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงค่าเสียหายกันได้ โดยทางรถเก๋งสีขาวยอมรับผิดพร้อมยินดีชดใช้ค่าเสียหายในการซ่อมรถให้เป็นเงินจำนวน 20,000 บาท แต่อ้างว่าไม่มีเงินสด ทางลุงแท็กซี่จึงขอให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปากเกร็ด หลังจากเดินทางไปที่สภ.ปากเกร็ด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความได้ให้ทั้งคู่ไปพบร้อยเวร เมื่อไปพบร้อยเวรกลับถูกทางร้อยเวรแจ้งว่าจะต้องดำเนินคดีกับลุงแท็กซี่ข้อหาประมาทร่วมลุงแท๊กซี่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้เข้าร้องเรียนกับสื่อ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่อู่แท็กซี่ภายในซอยสามัคคี ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าวกับนายสุพจน์ อ้อมแก้ว อายุ 57 ปี ลุงขับแท็กซี่ เล่าเหตุการณ์ว่าวันที่เกิดเหตุตัวเขาได้ขับรถมาจากถนนราชพฤกษ์เพื่อมุ่งหน้าไปแจ้งวัฒนะ ขณะที่ขับรถอยู่บนถนนเลนขวา พบว่าทำไมรถเลนนขวาถึงติด เมื่อสังเกตเห็นว่าทางเลนซ้ายว่างจึงได้เบี่ยงรถออกมาทางเลนซ้าย ในขณะที่เบี่ยงเปลี่ยนมาเลนมาแล้วสังเกตเห็นรถเก๋งสีขาวกำลังถอยหลังจึงได้เบรกหยุดรถแต่ไม่สามารถหยุดรถได้จึงเกิดพุ่งชนท้ายรถเก๋งอย่างจัง หลังจากนั้นก็ลงไปพูดคุยกันเพื่อสอบถามว่าทำไมต้องหยุดรถแล้วถอยหลังบนถนนมันอันตราย โดยคนขับรถเก๋งเป็นหญิงสาวก็ยอมรับผิดยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ลุงแท็กซี่ก็เลยแจ้งให้ทางเจ้าของอู่ทราบเพื่อมาตกลงค่าเสียหาย โดยที่คนขับรถเก๋งสีขาวได้บอกให้เอารถลงมาจอดด้านล่างส่วนตัวเขาขอไปส่งเพื่อนที่แถวย่านเมืองทองก่อน
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าของอู่ก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ สักพักคนขับรถเก๋งซึ่งเป็นหญิงก็ขับรถคันเดิมมาจอด แล้วมีการตกลงค่าเสียหายกัน เบื้องต้นทางเจ้าของอู่เรียกค่าเสียหายไปจำนวน 25,000 บาท แต่ทางคู่กรณีต่อรองเหลือ 20,000 บาท สรุปก็ตกลงกันได้ แต่ทางคนขับรถอ้างว่าไม่มีเงินสด จึงได้พากันไป สภ.ปากเกร็ด เพื่อจะขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในการชดใช้เงินค่าเสียหาย แต่เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ให้ไปพบร้อยเวร ก่อนที่ทางร้อยเวรจะดูคลิปภาพวงจรปิดหลังจากนั้นก็ได้แจ้งว่าจะแจ้งข้อหาประมาทร่วมเพื่อให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปซ่อมรถกันเอง ลุงจึงแปลกใจมากทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะชดใช้และไม่ได้มีการแจ้งความแต่ทำไมถึงได้กลายเป็นความผิดร่วมกัน
ด้านนายประยูร ถาวร อายุ 49 ปี เจ้าของอู่แท็กซี่กล่าวว่า หลังที่ทางลุงโทรมาบอกจึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อพบคู่กรณีก็มีการพูดคุยกันจนเข้าใจ แต่คู่กรณีอ้างว่าไม่มีเงินสด จึงขอให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนว่ายินดีจะจ่ายให้เมื่อใดและจ่ายลักษณะไหน แต่เมื่อไปถึง สภ.ปากเกร็ด กลับกลายเป็นคนละเรื่องเลย ทางตำรวจได้เรียกทั้งสองฝ่ายเข้าไปคุยโดยเรียกไปที่ละฝ่าย ก่อนที่จะเรียกเข้าไปทั้งคู่ โดยทางคู่กรณีอ้างว่ารถเขามีอาการเครื่องสะดุด จึงได้จอดรถเพราะเกรงว่าถ้าวิ่งต่อไปจะเสียหายหนักจึงพยายามถอยหลังมาจอดตรงเส้นกางปลาทางเบี่ยง หลังจากนั้นทางร้อยเวรแจ้งว่า จากได้ดูคลิปแล้วพบว่าลุงได้ขับรถเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน จนไปชนรถคู่กรณีจึงถือว่ามีความผิดข้อหาประมาทร่วม โดยให้ทั้งคู่ต่างคนต่างซ่อมรถเอง ซึ่งทางผมกับลุงก็ไม่ยอมตำรวจบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันเอง จึงทำให้รู้สึกแปลกใจมากว่าเรื่องนี้น่าจะมีคนที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ที่คู่กรณีอ้างรถเสียแต่ทำไม่วิ่งไปส่งเพื่อนได้ และวิ่งกลับมาที่ สภ.ปากเกร็ดได้ ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าตรงบริเวณจุดที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นจุดเลยทางเบี่ยงลงเทศบาลนครปากเกร็ด ถ้าตรงไปจะเป็นถนนแจ้งวัฒนะ นอกจากนี้ยังพบรอยเบรกรถเป็นทางยาวระยะทางกว่า 10 เมตร จากการตรวจสอบอย่างละเอียดสันนิษฐานว่ารถเก๋งสีขาวน่าจะขับเลยทางเบี่ยงที่จะลงหน้าเทศบาลปากเกร็ด จึงได้เบรกหยุดรถ แล้วถอยหลังเพื่อจะถอยมาลงที่ทางเทศบาลนครปากเกร็ดจนกระทั่งรถแท็กซี่ที่เบี่ยงออกซ้ายมาพบว่ารถเก๋งหยุดอยู่กลางถนนจึงพยายามจะหยุดรถแต่ไม่ทันจึงพุ่งเข้าชนอย่างจัง