หดหู่ ญาติร่ำไห้นั่งมองปล่องเมรุเผาศพผู้เสียชีวิตโควิดอย่างโดดเดี่ยว วัดป้อมรามัญ จำเป็นต้องเผาให้ทั้งๆที่ปล่องเมรุร้าวอยู่ในระหว่างซ่อม
วันที่ 24 ก.ค.64 ที่ เมรุวัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีการฌาปนกิจศพหญิงไทย อายุ 66 ปี ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิค-19 ช่วงเวลา 05.00 น.ของวันนี้ จากกรุงเทพมหานคร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพียง เจ้าหน้าที่สัปเหร่อ และ ครอบครัวผู้เสียชีวิตเพียงไม่กี่คน คอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆจากเมรุ
สอบถาม นายปรัชญา ( สงวนนามสกุล ) อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นหลานของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็น ป้าวัย 66 ปีมีภูมิลำเนาอยู่อยุธยา แต่พักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีบ้านให้เช่า โดยได้รับเชื้อมาจากผู้ที่มาเช่าบ้าน จนมีอาการตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 จากนั้นได้ตรวจหาเชื้อโควิค-19 ในวันพุธที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนได้เข้ารับการรักษาตัว ที่ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แต่ด้วยอาการที่เชื้อได้ลงปอดจนทำให้เสียชีวิตในช่วงเวลาตี 5 ของวันนี้
ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นโรคที่น่ากลัวเกิดขึ้นใกล้ตัวมากๆ รู้สึกเศร้าใจ ทั้งที่ตนเองเป็นผู้อยู่ในกระบวนการสร้างโรงพยาบาลสนามในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลต่างๆ แต่ต้องมาเจอกับตัว ต้องขอขอบคุณทางวัดป้อมรามัญที่ให้สถานที่ในการเผาศพ แม้ว่าเมรุอยู่ระหว่างกำลังทำการซ่อมแซมอยู่ แต่พระครูเกษมจันทวิมล (พระอาจารย์แดง) เจ้าอาวาส ก็ให้การช่วยเหลือฌาปนกิจโดยไม่คิดเงิน ขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ ทางทีมแพทย์ที่ดูแลการรักษา ที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเอาชนะเชื้อโรคร้ายโรคนี้ได้ การทำพิธีเผาศพก็มีเพียงญาติแค่ 2-3 คนเท่านั้น ส่วนญาติคนอื่นก็อยู่ระหว่างการกักตัว รอดูผลจากแพทย์ เราก็ทำได้แค่นั่งมองปล่องเมรุอยู่ห่างๆ ไม่สามารถเข้าไปใกล้ชิดได้
