(สระแก้ว) – จับ2 สาวอีสานแอดมินบ่อนคาสิโนฝั่งประเทศกัมพูชา
สระแก้ว – เจ้าหน้าที่กองกำลังชายแดนจับกุม 2 สาวไทยจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะลักลอบข้ามแดนไปทำงานที่พนมเปญและแอดมินบ่อนคาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา
เมื่อเวลา 00.01 น.วันที่ 26 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานเจ้าหน้าที่กองกำลังชายแดน จ.สระแก้ว โดย พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้เข้มงวดกวดขันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่กำลังรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่กองร้อย ฉก.ตชด.4 ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ร่วมกับ ชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา และ ชุดเคลื่อนที่เร็ว กกล.บูรพา ร่วมกันจับกุมคนไทยขณะลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายหมายไปยังประเทศกัมพูชา จำนวน 2 คน ที่บริเวณบ้านโคกสูง ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
” ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า หญิงไทยทั้ง 2 ราย ประกอบด้วย น.ส.กนกอร ชินทวัน อายุ 27 ปี ที่อยู่ 76 ม.11 บ้านหนองเหลา ต.กนองเหลา อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี และ น.ส.พัชรา พรมหาญอายุ 17 ปี ที่อยู่ 157 ม.4 บ้านหนอง ต.ส้มปอย อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ โดย น.ส.กนกอร ยอมรับว่า ต้องการจะข้ามไปทำงานกับเพื่อนชื่อว่า น.ส.จริยา วงศ์ศิริ เป็นพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน ในกรุงพนมเปญ ซึ่งเปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น อยู่ที่กรุงพนมเปญ และในการเดินทางครั้งนี้เพื่อนคนดังกล่าวเป็นคนติดต่อนายหน้าให้ โดยตกลงจะจ่ายเงิน จำนวน 8,000 บาทให้ หลังจากสามารถข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชาได้สำเร็จแล้ว
ส่วน น.ส.พัชรา พรมหาญ กล่าวว่า ต้องการไปหางานทำที่ประเทศกัมพูชาโดยเพื่อนแนะนำไป โดยจะไปทำงานเป็นแอดมินบ่อนคาสิโนออนไลน์ ในเมืองปอยเปต และในการเดินทางครั้งนี้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเนื่องจากบริษัทคาสิโนออนไลน์ ดำเนินการให้ทุกอย่าง โดยก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมทั้ง 2 คน ได้เดินลัดเลาะตามภูมิประเทศและข้ามถนนศรีเพ็ญ บริเวณจุดดังกล่าว ซึ่งมีชาวกัมพูชานำทางพาเดินข้ามไป จนมาถึงจุดที่เจ้าหน้าชุดจับกุมซุ่มเฝ้าตรวจ และแสดงตัวจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งสองคนมาสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมที่กอง ร้อย.ฉก.ตชด.4 พร้อมกับทำการตรวจวัดอุณหภูมิ อยู่ในเกณฑ์ปกติทั้ง 2 คนและได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัด และได้ประสานสาธารณสุขอำเภอโคกสูงเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากนั้นจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป..นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว
