นนทบุรี ลุงแท็กซี่ติดโควิดขับรถไป รพ.ไม่ไหวจอดขอความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันทราบว่าก่อนหน้าใช้วิธีการกักตัวในรถ รอผลตรวจโควิด
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 29 ก.ค. 64 เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบรถแท็กซี่โตโยต้า สีชมพู หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าลุงคนขับแท็กซี่ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ประสานขอรถกู้ชีพรพ.ชลประทาน ปากเกร็ด พร้อมเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
บริเวณจุดที่เกิดเหตุอยู่ใต้ทางด่วนถนนแจ้งวัฒนะฝั่งมุ่งหน้าไปห้าแยกปากเกร็ด ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด พบรถแท็กซี่สีชมพู ด้านท้ายรถปิดประกาศงดรับผู้โดยสาร สอบถามทราบชื่อคนขับคือนายธนโชติ อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่ได้ทำการพูดคุยซักประวัติพร้อมตรวจสอบโทรศัพท์มือถือเพื่อจะติดต่อประสานญาติ จึงเห็นข้อความบนไลน์แจ้งมาจากทางรพ.เวิลด์เมดิคอลเซนเตอร์ แจ้งวัฒนะ ว่าผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19
จากการสอบถามนายธนโชติ กล่าวว่าเมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้มีอาการเป็นไข้ ตัวร้อน ไอ อาการคล้ายคนติดเชื้อโควิด จึงงดรับผู้โดยสารและใช้วิธีการกักตัวในรถค่ำไหนนอนนั้น หลังจากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อที่ รพ.เวิลด์เมดิคอลเซนเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาโดยมีการให้รอผล 2 วันและก็ยังคงใช้วิธีกักตัวอยู่ในรถแท็กซี่เหมือนเช่นเคย จนวันนี้ทางรพ.ได้ส่งผลตรวจแจ้งมาทางไลน์ว่าติดเชื้อโควิด ซึ่งอาการก็เริ่มรุนแรงขึ้นมีการหายใจไม่ออก เหนื่อยแน่นหน้าอก จึงได้พยายามจะขับรถไปรพ.ที่ใกล้ที่สุด แต่เมื่อขับมาถึงบริเวณใต้ทางด่วนแจ้งวัฒนะ ไม่สามารถขับรถไปต่อไหวจึงจอดรถข้างทางเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับบริเวณนี้
จนกระทั่งรถกู้ชีพ รพ.ชลประทาน พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำรถ มาถึงก็ได้เข้าไปตรวจสอบถามถึงอาการ แล้วแจ้งไปที่ศูนย์สั่งการ ซึ่งทางศูนย์สั่งการแจ้งกลับมาว่าอาการคุณลุงยังสามารถเดินทางต่อไปได้ โดยจะให้ลุงขับรถไปรักษาตัวเองที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี ย่านมีนบุรี ตามสิทธิรักษา แต่ทางอาสาสมัครและทีมกู้ชีพได้มีการพูดคุยกันโดยลงความเห็นและเห็นใจสงสารคุณลุงเนื่องจากไม่น่าไปต่อไหว ทีมกู้ชีพ ร.พ.ชลประทานปากเกร็ด จึงตัดสินใจนำตัวไปดูแลเบื้องต้นก่อนที่ ร.พ.ชลประทาน ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากเหล่าอาสาสมัครและพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์