COVID-19ข่าวพาดหัวตรวจสอบ

สระแก้ว – เขมรหนีกลับประเทศกัมพูชา ด้านชายแดนสระแก้ว หลัง ศบค.ขยายล็อคดาวน์อีก 14 วัน

สระแก้ว- เขมรหนีกลับประเทศกัมพูชา ด้านชายแดนสระแก้ว หลัง ศบค.ขยายล็อคดาวน์อีก 14 วัน

ชมคลิป

https://youtu.be/xwL9g5q0Xes

“ผู้สื่อข่าวรายงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งนายอำเภอ 4 อำเภอ มีเขตติดต่อประเทศกัมพูชา จัดเตรียมพื้นที่พักคอยสำหรับแรงงานชาวกัมพูชา ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา ล่าสุด มีแรงงานกัมพูชาหลบหนีจากแคมป์คนงาน ทยอยไปรอข้ามแดนที่อำเภอตาพระยาและอำเภออรัญประเทศมากกว่า 200 คน ขณะที่ทางจังหวัด ให้ใช้พื้นที่ นอแมนแลนด์ เป็นจุดพักคอยพร้อมทั้งสนับสนุนในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย ระบบสาธารณสุข และอุปกรณ์ ประกอบอาหาร

แรงงานชาวกัมพูชากว่า 200 คน กลุ่มนี้ เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจาก ศบค.กลาง มีคำสั่งเพิ่มเติม ในการขยายเวลาล็อคดาวน์ออกไปอีก 14 วัน เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ (3 ส.ค.) นอกจากการขยายเวลาล็อคดาวน์แล้ว ในที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบให้ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิมที่ประกาศไปแล้ว 13 จังหวัด ให้เพิ่มอีก 16 จังหวัด รวมเป็นทั้งหมด 29 จังหวัด เพื่อสกัดกั้นการแพร่กระจายเชื้อ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

” จากข้อจำกัดในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ส่งผลให้จังหวัดใหญ่ๆในเขตภาคตะวันออก ที่มีโรงงานหรือนิคมอุตสาหกรรม ต้องปิดดำเนินกิจการ ทำให้แรงงานชาวกัมพูชาที่ยังต้องกักตัวอยู่ตามแคมป์คนงาน หรือ จุดที่ถูกกำหนดในการกักกันพื้นที่ หลบหนีออกมา เดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เพื่อต้องการกลับภูมิลำเนาในฝั่งกัมพูชา แต่ยังไม่สามารถข้ามแดนไปได้ เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชา ประกาศปิดชายแดนติดต่อกับไทย ไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ทำให้แรงงานชาวกัมพูชามากกว่า 200 คน ยังคงถูกควบคุมพื้นที่อยู่ในขณะนี้ ” จนทำให้นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ต้องเรียกประชุมด่วน หัวหน้าทุกภาคส่วนโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงเมื่อช่วงบ่ายวานนี้

” โดยผลสรุปในที่ประชุม เบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เน้นย้ำให้นายอำเภอทั้ง 4 อำเภอติดกับชายแดนกัมพูชา ตั้งแต่อำเภอตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ และอำเภอคลองหาด ให้เร่งจัดเตรียมพื้นที่ไว้รองรับแรงงานชาวกัมพูชา อำเภอละ 1 จุด ส่วนแรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดสระแก้ว ต้องการเดินทางกลับไปยังประเทศกัมพูชา ขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 226 คน แบ่งเป็นที่อำเภอตาพระยา 200 คน และอำเภออรัญประเทศ 26 คน

” โดยชาวกัมพูชาทั้ง 200 คนที่อำเภอตาพระยา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ประสานงานร่วมกับฝ่ายกัมพูชา เบื้องต้นจะให้ใช้พื้นที่ นอแมนแลนด์ หรือ พื้นที่พิพาท(ยังไม่มีการชี้แนวเขตเป็นของไทยหรือกัมพูชา) เป็นจุดพักคอย โดยฝ่ายไทยจะดูแลในเรื่องความปลอดภัย ระบบสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกในเรื่องภาชนะปรุงอาหาร ส่วนฝ่ายกัมพูชาจะดูแลในเรื่อง ข้าวสารอาหารแห้ง และอาหารสดที่จะใช้ปรุงอาหาร รวมถึงหลังคาและฉากกั้นที่ใช้บังแดดบังฝน เช่นเดียวกับชาวกัมพูชา 26 คนในอำเภออรัญประเทศ ได้กำหนดจุดพักคอยเอาไว้ ที่บ้านป้ายเขียว ตำบลทับพริก รอยต่ออำเภออรัญประเทศกับคลองหาด ไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม จนกว่ารัฐบาลกัมพูชาจะมีคำสั่งเพิ่มเติม

” จากนั้นจังหวัดสระแก้ว จะต้องประชุมผ่านระบบคอนเฟอเร้น รายงานไปยังศูนย์สั่งการชายแดน ที่มีผลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ เพื่อกำหนดมาตรการ เตรียมรองรับชาวกัมพูชาที่จะลักลอบเดินทางเข้ามาในจังหวัดสระแก้วเพิ่มขึ้น หลัง ศบค.ได้ขยายเวลาล็อคดาวน์เพิ่มอีก 14 วันรวมถึงเพิ่มกลุ่มจังหวัดสีแดงเข้ม โดยข้อมูลฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ระบุว่า อาจมีแรงงานชาวกัมพูชาอีกจำนวนมาก ทะลักเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสระแก้วเพิ่มเติมอีก…นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว