ปกครอง-ตำรวจเกี่ยงสถานที่กักตัวผู้ต้องหาเสี่ยงโควิด หลัง อส.จับ 42 พม่าครือข่าย” เจ๊เจี๊ยบ มหาชัย “นั่งทัวร์หรูไปด่านสิงขรขอกลับประเทศ
จากกรณี เจ้าหน้าที่ อส.ปกครองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จับกุมผู้ต้องหาแรงงานพม่า 42 คน อ้างว่าจะเดินทางกลับประเทศพม่า ผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ขณะนั่งรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ทะเบียน 30- 5714 กทม. ของบริษัทนครชัยทัวร์ ผ่านจุดตรวจประชารัฐหรือด่าน ส.น.ตีนเป็ด ถนนเพชรเกษม – ด่านสิงขร หมู่ 6 ต.คลองวาฬ จากนั้นควบคุมตัวไปสอบสวนเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)ที่ 146 ด่านสิงขร
ความคืบหน้า วันที่ 8 สิงหาคม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรายงาน ผลการตรวจพบผู้ต้องหาชาวพม่าติดเชื้อโควิด 12 คน รอผลตรวจอีก 8 คน ขณะเดียวกันมีแนวโน้มว่าผู้โดยสารที่เดินทางร่วมกัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าข่ายเสี่ยงสูงอีกจำนวนมาก สำหรับแรงงานพม่า 12 คน ที่ติดเชื้อจะเข้ารับการรักษาในระบบ ที่ รพ.สนามภายในตลาดร้างทุ่งกระต่ายขังตลาดสมพร ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองฯ ห่างจาก ตชด.ที่ 146 30 กิโลเมตร คาดว่าจะเข้ารับการรักษาได้ในวันที่ 9 สิงหาคม นี้ หากมีประกาศคำสั่งจากจังหวัด ส่วนผู้ต้องหาที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงต้องกักตัวที่ศูนย์กักกันภายในกองร้อย ตชด.ที่ 146 ด่านสิงขร จนกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจน เนื่องจากเดิมกำหนดให้ศูนย์กักกันเป็นสถานที่ควบคุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
สำหรับความคืบหน้าของคดี หลังจากแจ้งข้อหาพนักงานขับรถ ข้อหาฝ่าฝืน พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหสถาน ในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. กระทำความผิดฐานเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว สำหรับแรงงานชาวพม่า แจ้งข้อหาฝ่าฝืนสถานการณ์ฉุกเฉินและเป็นแรงงานต่างด้าวเดินทางออกนอกพื้นที่ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถทัวร์ไว้เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสนวน สภ.คลองวาฬ ดำเนินคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ ชาวพม่ายืนยันว่าเป็นแรงงานในสังกัด “เจ๊เจี๊ยบ มหาชัย” ผู้กว้างขวางในวงการค้าแรงงานต่างด้าวที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมให้หมายเลขโทรศัพท์กับพนักงานสอบสวนติดต่อสอบถามเจ๊เจี๊ยบแต่ไม่มีผู้ใดรับสาย
โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้เจ๊เจี๊ยบติดต่อแรงงานทั้งหมดให้เดินทางมารวมตัวที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมแจ้งว่าได้เคลียร์เส้นทางหมดแล้ว หากถูกจับกุมให้แจ้งว่าต้องการเดินทางกลับบ้านไปประเทศพม่า ให้เหตุผลว่าโรงงานปิด แต่ในข้อเท็จจริงรถคันดังกล่าวได้ตระเวนรับแรงงานเถื่อนตลอดเส้นทางเพื่อไปทำงานในจังหวัดทางภาคใต้ ส่วนช่วงแรกที่ถูกจับกุมมีการโทรศัพท์เคลียร์กับเจ้าหน้าที่บางนายที่ด่านตีนเป็ด เพื่อขอให้ปล่อยตัว อ้างว่ามีหนังสืออนุญาตนำแรงงานออกนอกพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม หลังจากตรวจสอบเอกสารบางชุดพบว่ามีการปลอมแปลง
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากฝ่ายปกครองจังหวัด ระบุว่า สำหรับการปรับปรุงรพ.สนามชั่วคราว และจุดพักคอย ใกล้ที่ทำการ อบต. อ่าวน้อย ภายในตลาดร้างทุ่งกระต่ายขัง มีการนำลวดหนามปิดกั้นรอบบริเวณ พร้อมฉีดน้ำทำความสะอาด พร้อมนำอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นเข้าไปสนับสนุน เมื่อปรับปรุงสถานที่เสร็จแล้ว คาดว่าจะมีคำสั่งนำแรงงานพม่าทั้งหมดไปรักษาใน รพ.สนาม หากรักษาอาการหายป่วย หรือผู้กักตัวพ้นระยะเวลา 14 วัน จะส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดี และผลักดันแรงงานทั้งหมดกลับประเทศต้นทางทันที ส่วนการทำงานที่จุดตรวจด่านประชารัฐมีเพียง อส.เฝ้าด่านทำหน้าที่จับกุมพม่านั่งรถทัวร์ จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยร่วมจับกุมและดำเนินการตามกฎหมายที่กำหนด แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ และหลังจากนี้ได้กำชับให้ อส.รายงานข้อเท็จจริง หากมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดมายืนถ่ายภาพหน้าด่าน แล้วเดินทางกลับ /////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 3396 4 4 4