ข่าวพาดหัวช่วยชาวบ้านอุทกภัย

ปราจีนบุรี – สองสามีภรรยาถ่ายคลิปขึ้นบนหลังคาขอความช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุน้ำป่าไหลท่วมบ้านจนต้องหนีขึ้นหลังคา

ปราจีนบุรี สองสามีภรรยาถ่ายคลิปขึ้นบนหลังคาขอความช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุน้ำป่าไหลท่วมบ้านจนต้องหนีขึ้นหลังคา

*****วันนี้ (8 ก.ย. 64) จากการที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน ในพื้นที่ อ.นาดี ตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน ไหลหลากลงสู่คลองวังมืด ไปรวมกับคลองลำพญาธาร ผ่านพื้นที่ หมู่ที่ 5 บ้านวังมืด หมู่ 8 บ้านวังใหม่ หมู่ 2 บ้านขุนศรี และ หมู่ 10 บ้านทับลานใน พื้นที่ตำบลบุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
*****ส่งผลให้น้ำป่าเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร หมู่ที่ 2 บ้านขุน หมู่ 6 บ้านวังขอนแดง หมู่ 10 บ้านทับลานใน รวมทั้งพื้นทีการเกษตรหลายพันไร่ และถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ 2 บ้านขุนศรี ต.บุพราหมณ์ ถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จากมวลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานไหลลงด้านล่างครั้งนี้ ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านชาวบ้านบางหลังกว่า 2 เมตร


*****ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนาดี ได้รับคลิปจาก 2 สามีภรรยา ที่ถ่ายคลิปน้ำท่วมน้ำทั้งหมด ต้องหนีตายเปิดหลังคาบ้านขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านพร้อมสุนัข 2 ตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนาดี จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสัจจพุทธรรมกบินทร์บุรี ได้นำเรือท้องแบนพร้อมกำลังพล เดินทางเข้าพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบ้านขุนศรี ช่วยกันนำเรือท้องแบนขับฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เข้าไปให้ความช่วยเหลือภรรยา คือนางสิตานันท์ จันทร์พรมราช อายุ 49 ปี ออกมาคนแรก ก่อนที่จะขับเรือเข้าไปรับนายพสิษฐ์ หะพินรัมย์ อายุ 54 ปี พร้อมสุนัข 2 ตัวออกมาได้อย่างปลอด

*****ในช่วงบ่ายทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสัจจพุทธธรรม กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน หมู่10 บ้านทับลานใน ต.บุพราหมณ์ อีกว่าบ้านถูกน้ำท่วมและสัตว์เลี้ยงและปริมาณน้ำยังคงสูงขึ้นตลอดเวลา ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเตรียมเรือท้องแบนพร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อเดินทางไปให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน

*****นางสิตานันท์ จันทร์พรมราช หลังจากได้รับความช่วยเหลือออกมาด้านนอกอย่างปลอดภัยแล้ว ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนาย และกล่าวถึงเหตุการณ์ หลังจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ตลอดคืน ได้เกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านจนไม้สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องเจาะหลังคาหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน


*****ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านทับลานใน หมู่ 10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี พบว่า มีน้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชนและถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง ประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้ นายบุญสม ประถมพรหมราช รองนายก อบต.บุพราหมณ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในหมู่บ้านทับลานใน มีระดับน้ำท่วมถนนสูงถึงหน้าอก ต้องใช้เชือกมาขึงข้ามถนนไปยังอีกฝั่ง ประชาชนที่กลับจากการทำงานในโรงงานเข้าหมู่บ้าน ต้องเกาะเชือกและลุยน้ำข้ามน้ำไป


*****นายนิรันดร์ จันทโชติ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ต.บุพราหมณ์ กล่าวว่า ฝนตกตั้งแต่เย็น จนถึง ตี 2 กว่า ฝนจะหยุด นำเริ่มมาประมาณตี 3 ครึ่ง มาเรื่อย ๆ และท่วมทางเข้าหมู่บ้านและบ้านประชาชน


*****น.ส.ชุติมันต์ ดีเลิศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.บุพราหมณ์ กล่าวว่า น้ำเริ่มมาตั้งแต่ 3.00 น. 1และเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และหนักสุด เมื่อ เวลา 4.00 น. น้ำท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้าน มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมอยู่ด้านในหมู่บ้าน จำนวน 80 หลังคาเรือน แต่ทั้งหมดหมู่บ้าน มี 268 ครัวเรือน คลองนี้คือคลองลำพญาธาร เมื่อถึงฤดูฝนน้ำก็จะท่วมทุกปี ช่วงนี้ก็ทำโครงการทำถนนทางข้ามเข้าหมู่บ้าน


**********จากการสอบถาม นายสนธยา เฟื่องจรัส ปลัดอำเภอนาดี กล่าวว่าน้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในช่วงเวลาประมาณ 03:00 น. ก่อนหน้านั้นทางกำนันที่อยู่ข้างบนได้แจ้งมายังพื้นที่ด้านล่างว่าเพื่อให้ประกาศเสียงตามสายประชาสัมพันธ์ให้ทางผู้ใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ข้างล่างทราบ เนื่องจากบ้านหลังที่ถูกน้ำท่วมได้อยู่บริเวณริมน้ำเสียงตามสายที่ได้ประกาศเตือนไปอาจจะไม่ได้ยิน และอยู่ในช่วงที่ดึกก็เลยทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นออกไม่ทัน สำหรับในพื้นที่ ม.2 บ้านขุนศรี มีบ้านประชาชนที่ได้รับผลกระทบอยู่ด้วยกัน 4 หลังคาเรือน ตอนนี้พื้นที่ที่ยังคงหนักอยู่ก็จะเป็น ม.6 บ้านวังขอนแดง และ ม.10 บ้านทับลานใน พื้นที่ตรงนั้นอยู่ติดคลองลำพญาธารนำจะเอ่อล้นเป็นประจำถ้ามีฝนตกก็จะเอ่อล้นตลอด โดยทางผู้ว่าราชการ จ.ปราจีนบุรี นายวรพันธุ์ สุวรรณณุสส์ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนได้แจ้งมาทางอำเภอให้ทางอำเภอแจ้งมายังปกครองท้องถิ่น ให้ทางผู้นำชุมชนหมู่บ้านได้ประชาสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่องในเนื่องของการเตือนภัยน้ำป่าไหลหลากในช่วงนี้ ซึ่งทางชาวบ้านก็ได้มีการตื่นตัวในการอพยพก็จะไม่ได้รับผลกระทบมาก ในช่วงนี้ยังคงจะต้องเฝ้าระวังอยู่ ทาง จ.ปราจีนบุรี ได้ให้ข้อมูลกับทางอำเภอมาว่าในช่วงตั้งแต่วันที่ 7 เป็นต้นไปจนถึงกลางเดือน ก.ย. จะมีพายุเข้า ซึ่งทางอำเภอได้แจ้งให้กับผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้านได้ทราบและให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านได้ทราบกันอย่างต่อเนื่อง //////
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า ยุทธการ คันธชมภู/ปราจีนบรี