ร้อยเอ็ดประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญของผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ในพื้นที่อำเภออำเภอเสลภูมิ
วันที่ 7 ตุลาคม 2564 เวลา 09.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญของผู้ว่าราชการจังหวัดในระดับอำเภอ ณ หอประชุมเทศบาลตำบลเสลภูมิ เทศบาลตำบลเสลภูมิ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด , นายสนอง ดลประสิทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด , หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วม
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เรื่องการบริหารราชการพื้นที่ ซึ่งนายอำเภอถือเป็นหัวใจหลักของการบริหารราชการพื้นที่ สำหรับงานด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น ขอให้นายอำเภอแสวงหาความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้นายอำเภอทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ว่าราชการจังหวัดในระดับอำเภอ และใช้กลไกการทำงานของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาสนับสนุนงาน นายอำเภอถือเป็นผู้อำนวยการปฏิบัติในระดับพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะภารกิจของกระทรวงมหาดไทยเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการขับเคลื่อนงานของกระทรวง กรมต่าง ๆ ที่นำไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ด้วย และเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ต้องดำเนินให้เรียบร้อยภายใน 30 วัน และต้องรายงานความคืบหน้าให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ สำหรับเรื่องข้อร้องเรียนต่าง ๆ ของพื้นที่ เช่น ถนนชำรุด ที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ ต้องมีเจ้าภาพรับผิดชอบ โดยขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยรับผิดชอบหลักกรณีถนนในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ในส่วนเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด จังหวัดจะให้ความสำคัญเป็นเรื่องหลัก มุ่งวางระบบบริหารจัดการที่รองรับได้ ต้องปราบปราม บำบัด ตัดช่องทางให้มากที่สุด ขอให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกัน ฝากย้ำให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งที่ทำการปกครองจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด ดำเนินการใน 2 เรื่อง ได้แก่ 1) เรื่องยาเสพติด เจ้าหน้าที่ของรัฐ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง 2) เรื่องบ่อนการพนัน ยังไม่อนุญาตให้เปิดและห้ามมิให้มีการลักลอบเล่นการพนัน ต้องมีการกวดขัน จับกุม เรื่องบ่อนการพนันอย่าให้มีเด็ดขาด จังหวัดร้อยเอ็ดมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ การป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัย ต้องเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำที่ไหลผ่านลำช้ำชีมาจากจังหวัดชัยภูมิ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานจะต้องสนับสนุนช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะพื้นที่ 8 อำเภอเสี่ยง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จะต้องเตรียมพร้อมรับมือ ทั้งสรรพกำลังต่างๆ และต้องดำรงการติดต่อสื่อสารตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย และจัดเตรียมศูนย์พักพิง ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้การสนับสนุนพื้นที่ด้วย และในส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสถานการณ์การร่วมกัน และที่สำคัญต้องปฏิบัติการตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด พร้อมกับการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจ ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เน้นย้ำให้ ทุกภาคส่วนบริหารงานราชการแผ่นดินโดยมีหลักกฎหมายและยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง