สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊งขนแรงงานชาวกัมพูชา รวม 60 ราย ลักลอบเข้าเมืองก่อนเปิดประเทศ ผู้การฯสระแก้ว รุดสอบปากคำด้วยตนเอง ระบุเตรียมขยายผลเพิ่มเติมไปยังกลุ่มขบวนการนำพาแรงงานจากหลาย ๆ กลุ่มที่มีข้อมูลอยู่
” ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ สภ.อรัญประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายชาวกัมพูชาเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำนวน 60 คน ประกอบด้วย ผู้นำพาคนไทย 6 คน แรงงานกัมพูชา 54 คน เป็นชาย 29 คน หญิง 18 คน และเด็กผู้ติดตามอีก 7 คน ที่บริเวณถนนบายพาสอรัญประเทศ เส้นทางจาก กก.ตชด.12 มุ่งหน้าเมืองสระแก้ว พื้นที่หมู่ที่ 1 ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมและบันทึกจับกุมที่ สภ.อรัญประเทศ
สำหรับผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 6 คน ประกอบด้วย 1.นายพนมไพร งามสะอาด อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 4 ต.สำโรง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุซุ สีบอนด์ หมายเลขทะเบียน บพ-8663 สระแก้ว พร้อมบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมือง จำนวน 9 คน ,2.นายประมวล ปิดตาละโพธิ์ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ที่ 11 ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ขับรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขค-9949 ชลบุรี พร้อมบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย จำนวน 10 คน , 3.นายชานนท์ เอี่ยมชม อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 9 ต.เพชรชมภู อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ขับรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส หมายเลขทะเบียน 9กฮ-2293 กทม. พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 9 คน และเด็กผู้ติดตามอีก 3 คน
ส่วนผู้ต้องหาคนไทยรายที่ 4.นายจำเริญ นานฟอง อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 173 หมู่ 3 ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ขับรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 8กฬ-1361 กทม. พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 19 คน และคนไทยรายที่ 5. น.ส.เมวดี ไขอ่อน อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 81 หมู่ 5 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ร่วมกับ 6.นายทศพล เหลาอ้น อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 7 หมู่ 2 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขับรถยนต์โตโยต้า รุ่นพรีรันเนอร์ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กท-717 สระแก้ว พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 7 คน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 6 ราย ด้วยตนเอง ซึ่งผู้ต้องหาเปิดปากรับสารภาพว่า เคยมารับแรงงานชาวกัมพูชาเข้าไปส่งในพื้นที่ชั้นในแล้วหลายครั้ง ซึ่งจะต้องนำไปส่งจนถึงที่หมายก่อน จึงจะได้รับเงินค่าจ้าง และครั้งนี้จะไปส่งที่ กทม.ซึ่งปกติช่วงก่อนสว่างก็จะถึง กทม.แล้ว แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน โดย ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ให้ข้อมูลด้วยว่า การจับกุมดังกล่าว ตนได้มอบให้ ผกก.สืบสวนจังหวัด เป็นหลักในการวางแผนปฏิบัติการ เพราะเรารู้ว่าการทำงานตรงนี้ต้องอาศัยเรื่องการข่าวเป็นหลัก การจะใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทั้งหมดในการเฝ้าระวังเป็นไปได้ยาก และด้วยสภาพพื้นที่ตลอดแนวชายแดน จึงต้องให้ทางสืบสวนจังหวัดติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มลักลอบต่าง ๆ โดยเป็นการทำงานร่วมกันและเกี่ยวข้องกับโรงพักต่าง ๆ ในพื้นที่ชายแดนด้วย
พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นสำหรับแรงงานกัมพูชา แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า เสียค่าใช้จ่ายให้กับชาวกัมพูชาที่เดินเรื่องให้ รายละ 1,000 บาท ไม่รวมค่าเดินทางอื่น ๆ ฝั่งไทย ขณะนี้เตรียมขยายผลเพิ่มเติมไปยังกลุ่มขบวนการนำพาแรงงานจากหลาย ๆ กลุ่มที่ตำรวจมีข้อมูลอยู่ และจะแจ้งข้อหากับชาวกัมพูชา กระทำผิดฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลักดัน ตามมาตรา 22 พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อส่งให้ทาง ตม.สระแก้วและฝ่ายทหารเป็นผู้ดำเนินการ
ทางด้าน แรงงานชาวกัมพูชารายหนึ่ง บอกว่า ใช้วิธีเดินเท้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.ของเมื่อคืนนี้ เพื่อข้ามชายแดนตามช่องทางธรรมชาติมายังประเทศไทย เพื่อมารอรถเข้ามารับและเดินทางมาจนถูกจับกุม โดยตั้งใจว่าจะไปทำงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และชาวกัมพูชาส่วนใหญ่อ้างว่า ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว พร้อมกับนำเอกสารแสดงว่าฉีดวัคซีน มาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการสอบสวนและทำบันทึกจับกุมเสร็จ ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาที่ 1-6 ซึ่งเป็นคนไทยว่า “ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมใดในสถานที่แออัด เป็นเหตุมีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉินฯ” ส่วนผู้ต้องหาชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้าเมืองทั้ง 54 ราย ถูกแจ้งข้อหาฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมาย เป็นบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมใดในสถานที่แออัดเป็นเหตุ มีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉินฯ” ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและส่งฟ้องต่อศาล จ.สระแก้ว ต่อไป..นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว