รถชีวนิรภัย โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ร่วมแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรัฐบาล โดย ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และกระทรวงสาธารณสุข ได้วางแผนกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นมา นั้น โดยในส่วนของกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้ทุกหน่วยของกองทัพบก ใช้ศักยภาพให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับมาตรการพิทักษ์พล และการช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน
ในการนี้ โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก มณฑลทหารบกที่ 35 ได้นำรถชีวนิรภัย ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ ใช้สำหรับการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากโพรงจมูกด้านหลัง (Nasopharyngeal Swab) เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์โดยใช้วิธีการตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) หากพบเชื้อ จะมีการดำเนินการตรวจยืนยันด้วยการหาสารพันธุกรรม ของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยวิธี RT-PCR ณ โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหักต่อไป โดยการตรวจหาเชื้อโดยรถชีวนิรภัยคันดังกล่าว เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุกในชุมชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รถชีวนิรภัย มีความรวดเร็วในการค้นหาผู้ป่วย ณ จุดที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนวิธีการทำงานจากตั้งรับในโรงพยาบาล เป็นการทำงานเชิงรุกเข้าถึงจุดเกิดเหตุในพื้นที่ ตามบ้านและชุมชน ทำให้ค้นหาผู้สงสัย ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ติดเชื้อในชุมชนได้อย่างรวดเร็ว สามรถป้องกัน และควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และเจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน เป็นการอนุรักษ์กำลังรบ และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในประเทศด้วยการลดการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลชุด PPE หน้ากากอนามัยชนิด N95 โดยตั้งแต่ 12 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก มณฑลทหารบกที่ 35 ได้ดำเนินการเชิงรุกด้วยรถชีวนิรภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 2,748 ราย ทั้งในพื้นที่เขตทหาร และพื้นที่ของประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ที่มีประชาชนหนาแน่น หรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาด ตลอดจนพื้นที่ที่เกิดการระบาดแล้ว เป็นการป้องกันคลัสเตอร์ใหม่ โดยหากพบเชื้อก็จะสามารถติดตามตัว มาดำเนินการรักษา ณ โรงพยาบาลสนามกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 35 หรือติดตามตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมาดำเนินการคัดกรองหาเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ทันที
ทั้งนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ภาคเหนือ ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร, ยุทโธปกรณ์ และอาคารสถานที่ของกองทัพภาคที่ 3 ทุกแห่ง ให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อได้รับการร้องขอ หรือประสานจากคณะกรรมการควบคุมโรคของแต่ละจังหวัดอย่างเร่งด่วน เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยร่วมกัน ทำให้สังคมไทยกลับมาเข้มแข็งและประเทศเดินหน้าต่อไปในอนาคต
คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3
28 ตุลาคม 2564
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก