รถพ่วง 18 ล้อเฉี่ยว จยย. หนุ่มใหญ่ชาวต่างชาติ ดับสลด ย่าน สาทร
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เวลา 20.30 น.
พันตำรวจโท ยุทธการ ปราบภัย สว.สอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วงเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวต่างชาติชาวอินเดีย 1 ราย บริเวณถนน สาทร มุ่งหน้าขาออกถนนพระรามที่ 4 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดบริเวณด้านหน้าอาคารทองธานี ถนน สาทรใต้ แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพมหานคร ทิศทางมุ่งหน้า ถนน พระรามที่4 จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวอินเดีย 1 ราย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อ นาย มุกส์ตา ซาฮี อายุ 76 ปี ในสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นถนน มีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง และมีบาดแผลขนาดใหญ่ใต้ท้องแขนซ้าย และขาข้างขวาหักผิดรูปแล้วมีแผลเปิดขนาดใหญ่จนเห็นกระดูก ใบหน้าและบริเวณเบ้าตามีลอยเขียวช้ำ ลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อโปโลแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขายาวสีน้ำเงิน ถุงเท้าสีดำ เสื้อผ้าที่สวมใส่มีรอยฉีกขาดจากการโดนกระแทกอย่างแรง แล้วบริเวณใกล้กับร่างผู้เสียชีวิต พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ คาวาซากิ รุ่น GTO สีน้ำเงิน ทะเบียน 4 ต 8710 กรุงเทพมหานคร ในลักษณะล้มตะแคงคว่ำอยู่กับพื้นได้รับความเสียหายยับเยินทั้งคันจนชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นถนน แล้วถัดมาไม่ไกลจุดเกิดเหตุมากนักพบกับรถคู่กรณี เป็นรถบรรทุกพ่วง 18ล้อ ยี่ห้อ อีซุซุ รุ่น DECA สีขาว ทะเบียนหัวพ่วง 85-2880 สุพรรณบุรี ส่วนท้ายพ่วงทะเบียน 85-2881 สุพรรณบุรี ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถาม นาย ธนพงษ์ งามธุระ อายุ 31 ปี ผู้โทรแจ้ง1669 บอกเล่าว่า ตนเองขับขี่รถตามมาจากทางช่องนนทรี พอมาถึงทางแยกเป็นช่วงสัญญานไฟเขียวพอดี แล้วผู้ตายขับขี่อยู่ในระยะใกล้ชิดกับรถพ่วงคันดังกล่าวแล้วก็เลยไปโดนกับบังโครนรถที่ยื่นออกมาก็เลยเสียหลักล้มลง แต่ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าจะโดนท้ายพ่วงของรถคันดังกล่าวเหยียบทับหรือเปล่าเพราะตอนนั้นก็อยู่ในช่วงชุลมุนกันอยู่ พอมาเห็นอีกทีก็แน่นิ่งไปแล้วตนเองจึงรีบจอดรถแล้วลงมาดูก็เลยโทรแจ้ง1669 ทันที ส่วนตอนนั้นก็มีจักรยานยนต์อีกคันวิ่งตามไปโบกรถพ่วงให้จอดเขาก็จอด แล้วก็บอกคนขับรถพ่วงคันดังกล่าวว่าพี่เฉี่ยวรถล้ม แต่คนขับรถพ่วงกลับกล่าวอ้างว่าเขาไม่รู้ เขาไม่ได้ยิน พอกู้ภัยมาถึงก็รีบทำการCPR ทันที แต่ว่าไม่ทันแล้ว กู้ภัยบอกว่าซี่โครงเขายุบไปหมดแล้ว ก็เลยสงสัยว่าเขาจะเหยียบทับหรือเปล่า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุแล้ว แต่ยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องรอผลจากการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาฯ แล้วจะมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนผู้ขับขี่รถพ่วงคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.