ข่าวพาดหัวช่วยชาวบ้านอัคคีภัยอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย

พัดลมเป็นเหตุ ไฟไหม้บ้านเกือบวอดทั้งหลัง ย่านตากสิน

พัดลมเป็นเหตุ ไฟไหม้บ้านเกือบวอดทั้งหลัง ย่านตากสิน

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15.03 น.

ร.ต.อ.ทำนอง มณฑา รอง สว.(สอบสวน) สน.สำเหร่ รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอย สมเด็จพระเจ้าตากสิน 17 จึงเร่งรุดจัดกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสาน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย เร่งรัดจัดกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 130 ซอย สมเด็จพระเจ้าตากสิน 17 ถนน สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวง สำเหร่ เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะ อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา จากการตรวจสอบแล้วพบกลุ่มควัน และ แสงเพลิงเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากบริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านจึงเร่งจัดอุปกรณ์สายฉีดดับเพลิงเข้าระงับเหตุทันที ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสกัดเพลิงเอาไว้ได้ และจากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุแล้วพบว่าเสียหายเฉพาะห้องบนชั้นที่ 2 ของตัวอาคารหลังดังกล่าวเท่านั้น ไม่ได้ลุกลามไปที่อื่นใด แล้วไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด

จากการสอบถามคุณ ศรีสุคนธ์ (เจ้าของบ้าน) บอกเล่าว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากด้านบนห้องชั้นที่ 2 ตรงบริเวณใกล้หน้าต่าง และตรงนั้นเป็นบริเวณเดียวกันกับที่มีการเสียบปลั๊กพัดลมเอาไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะลืมดึงปลั๊กพัดลมออก ก็เลยอาจจะเป็นเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้

ส่วนทาง น.ส.สาริณี และซัน อายุ 46 ปี อยู่บ้านข้างเคียง บอกว่า ตนอยู่ในบ้าน แล้วได้กลิ่นเหม็นไหม้ เหมือนเผากระดาษ กลิ่นเริ่มแรงขึ้นจึงออกมาดู เดินหาดูก็พบว่ามีชาวบ้านออกมาดูเหมือนกัน ก็เจอควันออกมาทางหน้าต่างชั้น 2 ของบ้านหลังเกิดเหตุ จึงตะโกนบอกบ้านข้างๆ ให้รู้และออกมาเอาถังดับเพลิงที่มีวางตั้งกันอยู่ทุกบ้าน มาช่วยกันดับไฟเบื้องต้นก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะมาถึง บ้านนี้เห็นอยู่กัน 2 คนแม่ลูก ตอนเกิดเหตุเห็น น้องผู้ชายคนเดียว ไม่เห็นแม่ ไม่แน่ใจว่าออกไปข้างนอกหรือป่าว ตอนที่เห็นควันก็บอกลูกชาย จึงขึ้นไปดูด้านบน พบไฟไหม้ไปแล้ว

ทางด้าน นาย อานนท์
อาสาสมัคร อปพร.เขต ธนบุรี กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ตนเลยรีบจัดกำลังกันออกมาพอมาถึงที่เกิดเหตุก็พบกับกลุ่มควันสีดำและเเสงเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณชั้นที่ 2 จึงเร่งจัดชุดอุปกรณ์เข้าระงับเหตุทันที ตรวจสอบแล้วพบว่าบริเวณที่ชั้น 2 ของตัวอาคารหลังดังกล่าวนั้นไหม้หมดทั้งชั้น ด้านบนจะมีทั้งหมด 3 ห้อง ส่วนสาเหตุชองการเกิดไฟไหม้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนถึงจะทราบสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง

และนายปรีชา ฉายินธุ อายุ 31 ปี เป็นอาสาที่ขึ้นไปดับไฟด้านบน บอกว่า ตอนตนมาถึง แต่ขึ้นไปด้านบน พบว่าไฟได้ไหม้เต็มห้องข้างหน้าแล้วกำลังจะรามไปห้องที่ 2 คือเต็มพื้นที่แล้ว จึงฉีดสกัดไม่ให้รามไปยังห้องอื่นๆอีก

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมอาคารดังกล่าวเอาไว้ก่อนแล้วโดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในอาคารเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ส่วนสาเหตุจากการเกิดเหตุครั้งนี้ต้องรอผลจากการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุบสาเหตุได้ว่าเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนทางด้านกฎหมายต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.