หนุ่มใหญ่วัย 62 ปีผู้รับเหมารื้อถอนอาคาร พลาดท่าตกจากชั้น 4 ทั้งคนทั้งแผ่นปูนโดนทับดับสลด ย่านท่าข้าม
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11.30 น. พันตำรวจโท สมพล บุญทา สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งมีเหตุอาคารทรุดตัว มีผู้เสียชีวิต จึงรีบประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู มาสนับสนุนที่เกิดเหตุทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นอาคารที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนของโรงงานแห่งหนึ่ง ภายในซอย ท่าข้าม แขวง แสมดำ เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ที่เคยได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ของโรงงานทินเนอร์ เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ภายในจุดเกิดเหตุพบแผ่นปูนขนาดใหญ่ทับอยู่บนร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ลักษณะอาคารดังกล่าวมีความสูง 4 ชั้น กำลังอยู่ระหว่างการรื้อทุบอาคารที่เคยถูกไฟไหม้ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาชื่อนาย ประวิทย์ อายุ 62 ปี เป็นผู้รับเหมา รื้อ ทุบ อาคาร สวมใส่เสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว สวมถุงมือสีดำ นอนหงาย มีเศษผงปูนตามลำตัวและใบหน้า ส่วนบาดแผลมีที่ใบหน้าและศีรษะมีแผลขนาดใหญ่มีเลือดออกจำนวนมาก ลำตัวมีร่องรอยถลอกหลายแห่งต้นขาขวาหัก ที่หน้าอกมีรอยยุบ
สอบถามจากนาย สำราญ อายุ 54 ปี เป็นผู้รับเหมาตัดเหล็ก อีกชุดนึง บอกว่า ตนทำงานอยู่อีกฝั่งนึง ส่วนผู้เสียชีวิต ทำงานอีกอย่างนึง คนละงานกัน เค้าทำในส่วนแย๊กปูน กำลังแย๊กแผ่นปูนอยู่ แล้วในแผ่นปูนไม่มีเหล็กหรือคานลอง พอแย็กไป ทั้งปูนทั้งคนก็ร่วงหล่นไปพร้อมกัน พอเกิดเหตุ ตนและคนงานที่เห็นก็ช่วยกันงัดยกร่างขึ้นมา แต่ก็ไม่ทันเสียชีวิตแล้ว เพราะทับไปทั้งตัวเลย ตนเพิ่งมารับงานทำที่นี่ครั้งแรก ในส่วนของตัดเศษเหล็ก ส่วนทางด้าน นาย สุพจน์ อายุ 49 ปี เป็นคนงานทำอยู่ด้วยกัน บอกว่า วันนี้มีคนทำงานอยู่จุดนี้ 4 คน แต่ผู้เสียชีวิต เป็นเถ้าแก่ ผู้รับเหมา มาก่อน แกก็ขึ้นไปทำงาน ที่ชั้น 4 บนสุด ตนมาถึงก็เห็นกำลังแย๊กอยู่ข้างบน ตนมากำลังจะเตรียมของขึ้นไปทำข้างบน เถ้าแกก็บอกให้เอาแย๊กตัวใหญ่ขึ้นมาให้ด้วย เพราะที่แย๊กอยู่เป็นตัวเล็ก พอขึ้นไปก็ทำงานตามปกติ เถ้าแกก็แย๊กปูน ตนก็เขี่ยเศษปูนออก เพื่อที่จะแย๊กต่อ พอแย๊กไป สักพัก ได้ยินเสียงลั่นและหล่นร่วงลงไปเลย เป็นเสี่ยววินาทีจริงๆ ตกใจนะ ใจหาย ก็ตะโกนบอกกัน เถ้าแกหล่น ต่างก็วิ่งมาช่วยดึงแผ่นปูนออก แต่ก็ช่วยไม่ทัน แกเป็นคนดีนะ จะคอยบอกลูกน้องตลอด เรื่องความปลอดภัย ให้ใส่เซฟตี้นะ เป็นห่วงลูกน้อง วันนี้แกก็ใส่เซฟตี้ แต่แผ่นปูนช่วงกันสาดมันมีแต่ปูน ไม่มีเหล็กอยู่ข้างใน เลยไม่มีอะไรช่วยพยุงแผ่น เวลาแย๊กหรือสะเทือนเลยหลุดร่วงลงมาทั้งแผ่นเบื้องต้นแพทย์นิติเวชตรวจชันสูตรพลิกศพ สันนิษฐานการเสียชีวิต จากการตกจากที่สูงลงมากระแทกพื้นด้านล่างและยังโดนทับด้วยแผ่นปูนซ้ำอีก ทำให้ตามร่างกายมีรอยบาดแผลถลอก ที่ศีรษะมีบาดแผลแล้วมีเลือดออก ขาหักผิดรูป และที่หน้าอกมีรอยยุบ ทำให้เสียชีวิตทันที และส่งมอบให้อาสาสมัครนำร่างส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนจะให้ญาติมารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บบันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี และทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานปิดกั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ อย่างละเอียดอีกครั้ง พลตำรวจตรี พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ ได้กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้กำกับ สน.ท่าข้าม ว่ามีเหตุผู้รับเหมากำลังรื้อทุบอาคารข้างเคียงที่ได้รับความเสียหายเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานทินเนอร์ครั้งก่อน ถูกว่าจ้างจากเจ้าของอาคารให้ขึ้นไปทุบอาคารที่ชั้น 3 ชั้น 4 แล้วอาคารเกิดการทรุดตัวทำให้ร่วงตกลงมามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อ นาย ประวิทย์ อายุ 62 ปี ท่านรองปลัด กทม. และ ทาง ผอ.เขตบางขุนเทียน มาให้ความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบในตัวอาคารว่าได้รับอนุญาตในการรื้อถอนถูกต้องหรือไม่ ส่วนการรื้อถอนอาคารต้องมีวิศวกรเข้ามาเกี่ยวข้อง อันนี้ต้องสอบถามไต่สวนอย่างละเอียด แล้วส่งพิจารณาความผิดตามกระบวนการ แต่อย่างไรแล้วเราต้องดูแลเรื่องของผู้เสียชีวิตก่อน ท่าน ผอ.เขต ก็ลงมา ทางผู้กำกับก็ลงมาตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนทาง ผอ.เขตบางขุนเทียน นาย พงษ์จักรินทร ถาวรพงษ์ กล่าวว่า อาคารชุดนี้เป็นอาคารที่ได้รับผลข้างเคียงความเสียหายจากเหตุไฟไหม้โรงงานครั้งก่อน เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางเขตก็ได้ให้ปิดในส่วนของตัวอาคาร ไม่ให้ใช้งาน แต่ในเรื่องของการขออนุญาตรื้อถอนนี้ยังไม่มีการขออนุญาตเข้ามาทางเขต ทางเขตก็ต้องส่งเรื่องดำเนินคดีกับเจ้าของอาคาร ที่สั่งรื้อถอนโดยยังไม่ได้รับอนุญาต และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ต้องเป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของเรื่องที่ปิดห้ามเข้าห้ามใช้ ในตัวอาคารเพื่อเตรียมการรื้อถอน นั้นได้รับอนุญาตให้ปิดใช้ แต่แค่ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตการรื้อถอนอาคารเท่านั้นเอง ตรวจสอบแล้ว ไม่มีใบอนุญาตให้รื้ออย่างแน่นอน ในส่วนที่ทรุดตัว ต้องดูที่โครงสร้างเดิม มันเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวอาคาร และไม่มีอะไรรองรับที่มั่นคงแล้วประกอบกับผลข้างเคียงตอนไฟไหม้ก็อาจจะเสียหายผุพัง โดนความร้อนอยู่แล้ว หรือเกิดจากความประมาท ต้องอยู่ที่เจ้าหน้าที่ลงความเห็นอีกทีนึง ก็ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วสรุปอีกครั้งนึงว่าจะดำเนินคดีกับทางเจ้าของอาคารในเรื่องใดบ้าง
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.