ข่าวทั่วไป

พบพิรุธอื้อคดีลูกจ้างบ้านประจวบโชค เดินสายรูดเงินสด 6.4 แสน เงินสวัสดิการกลุ่มเปราะบางโครงการเราชนะ 

พบพิรุธอื้อคดีลูกจ้างบ้านประจวบโชค เดินสายรูดเงินสด 6.4 แสน เงินสวัสดิการกลุ่มเปราะบางโครงการเราชนะ

 

กรณีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ หรือ บ้านประจวบโชค ที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสกลุ่มเปราะบาง ผู้มีอาการทางจิตและประสาท ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งความที่ สภ.อ่าวน้อย เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ภายหลังเจ้าหน้าที่นำเลขบัตรประชาชน 13 หลัก รหัสผ่าน 6 หลักในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ด้อยโอกาส 153 ราย สแกนแลกเงินสดในร้านค้าหลายพื้นที่ ทุจริตงบประมาณของรัฐในโครงการเราชนะ ซึ่งเป็นสิทธิของกลุ่มเปราะบาง 2 งวดรวมรายละ 9,000 บาท พบมูลค่าความเสียหาย 644,923 บาท

วันที่ 9 พฤศจิกายน มีรายงานว่า ผู้บริหารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม.) มีคำสั่งย้าย นางไพทิพย์ หนูพรม ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติงานในหน่วยงานส่วนกลาง โดยมอบหมายให้ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองประจวบคีรีขันธ์ทำหน้าที่รักษาราชการแทน หลังพบลูกจ้างชั่วคราวทุจริต

 

ร.ต.อ.สุรนันท์ มีพันธ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ต้องหาเพียงรายเดียว หลังจากนายอิทธิพล พันธ์จบสิงห์ อายุ 30 ปี อดีตลูกจ้างชั่วคราว ผู้ดูแลอาคารที่พักชาย รับทราบข้อกล่าวหาฐานใช้บัตรอีเลคทรอนิคส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้ผู้อื่นไร้ประโยชน์ และฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น นายอิทธิพลรับสารภาพว่าทุจริตในการเบิกจ่าย 21,000 บาท แต่คืนเงินให้ทางราชการแล้ว ส่วนการทุจริตอีก 153 คน วงเงินรวม 6.4 แสนบาท ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ร.ต.อ.สุรนันท์ กล่าวว่า ได้มอบสำนวนการสอบสวนให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ( ผบก.ภจ.)ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งคณะพนักงานสอบสวนชุดพิเศษเพื่อสะสางคดีให้รวดเร็ว ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง เนื่องจากมีการตรวจสอบสาระบบการใช้จ่ายเงินในโครงการเราชนะ จากสำนักงานเศรษฐกิจกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พบว่าผู้ต้องหานำบัตรอีเลคทรอนิคส์ไปเบิกเงินสดจากร้านค้าใน อ.ปราณบุรี อ.กุยบุรี อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ อ. ชะอำ จ.เพชรบุรี ต้องใช้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่พบสอบปากคำร้านค้าเป้าหมายจำนวนมาก

 

ด้านแหล่งข่าวจากทีมพนักงานสอบสวน ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งว่า พบมีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ต้องหา นำบัตรของกลุ่มเปราะบางไปซื้อสินค้าในร้านจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับผู้ด้อยโอกาส พนักงานสอบสวนจะเรียกสอบร้านค้าทุกร้านที่อ้างว่าเป็นวิสาหกิจชุมชน ในโครงการการใช้เงินสวัสดิการการเราชนะมีการจัดตลาดนัด 2 ครั้ง ภายในบ้านประจวบโชค เนื่องจากพบว่าผู้ด้อยโอกาสสแกนซื้อเครื่องสำอาง เครื่องประดับ ข้าวไรซ์เบอรี่ ขนมปังรายละ 2 ปี๊ป เกินความจำเป็นเนื่องจากในสถานสงเคราะห์ประกอบอาหารเลี้ยงครบ 3 มื้อ และหลังจากมีสถานการณ์โควิด บ้านประจวบโชคได้ให้ร้านค้าภายนอกจัดรายการขายสินค้าผ่านออนไลน์ เพื่อให้กลุ่มเปราะบางใช้เงินสวัสดิการโดยมีร้านค้าบางแห่ง เสนอขายสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำรงชีพของผู้ด้อยโอกาส กระทั่งยุติการซื้อขายหลังพบการทุจริต

 

 

ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบฯระบุว่า หลังจากพบพิรุธในระบบการเบิกจ่าย มีการตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ใช้บริการกลุ่มเปราะบางจำนวน 153 คน พบการทุจริตมีรายชื่อร้านค้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ประกอบด้วยร้านธนัฎฐา ร้านแพ๊คปลาทู อ.ปราณบุรี ร้านเสื้อฮาวาย ร้านน้องเบสของชำ อ.เมืองประจวบฯ ร้านBANG VINTAGES อ.กุยบุรี และ ร้านพิมลวรรณ ศิวิลัย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนแปลงรหัสการเข้าถึงสิทธิโครงการเราชนะ จากเดิมใช้รหัสเลข 6 หลัก “123456 “เหมือนกันทุกรายเป็นรหัสอื่น พร้อมนำผู้ใช้สิทธิสแกนใบหน้าใหม่ เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนำรหัสและบัตรไปใช้สวมสิทธิ /////

พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 3396 4 4 4