ข่าวพาดหัวฆาตกรรมจับกุม

นนทบุรี – คืบหน้า กรณีเหตุช่างซ่อมปืนยิงช่างสักเสียชีวิตแล้วหลบหนี

นนทบุรี คืบหน้า กรณีเหตุช่างซ่อมปืนยิงช่างสักเสียชีวิตแล้วหลบหนี ล่าสุดเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ขณะที่เจ้าตัวเผยไม่เคยรู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อนคาดว่าประเด็นมาจากที่ฝ่ายหญิงนำเรื่องไปพูดใส่ร้าย


เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากเหตุการณ์ที่นายทวีศักดิ์ สุขอยู่ หรือตี๋ อายุ 35 ปี อาชีพช่างสักถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกจำนวน 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายสิปปวุฒิ พรหมประสิทธิ์ หรือนัท อายุ 28 ปี อาชีพช่างซ่อมปืน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 117 ถนนเลียบคลองบางไผ่ ซอยบางรักใหญ่ 25 หมู่1 ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี


ทางด้านพ.ต.อ.พรเทพ เพชรรัตน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่าสาเหตุมาจากเรื่องทะเลาะวิวาท จากการสอบสวน ทราบว่านายสนทยา ได้ มีเรื่องกับ นายสิปปวุฒิ มือปืน จึงได้ไปบอกกับ นายทวีศักดิ์ สุขอยู่ หรือตี๋ ผู้ตาย ให้มาช่วยเคลียร์ให้หน่อย โดยก่อนเกิดเหตุนายสนทยา หรือเก้า และนายทวีศักดิ์ ขี่รถ จยย.มากัน 2 คน มาบ้านที่เกิดเหตุได้เรียกให้นายสิปปวุฒิ ที่นั่งอยู่ในบ้าน ออกมาคุยกันหลังจากนั้นเกิดการโต้เถียงกันก่อนที่นายสิปปวุฒิ จะใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงนายทวีศักดิ์
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ และติดตามจับกุมตัวที่บ้าน จ.ราชบุรี แต่ก็คลาดกัน และตามต่อไปยัง จ.เพชรบุรี แต่ก็ยังไม่เจอตัว กระทั่งมีการพูดคุยกับแม่ของผู้ก่อเหตุให้นายสิปปวุฒิ ผู้ก่อเหตุนั้นเข้ามามอบตัว ต่อมาเวลา 14.30 น แม่และนายสิปปวุฒิ หรือนัท ,เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง


สอบถามนางเล็ก แม่ของผู้ก่อเหตุกล่าวว่าก่อนหน้านี้ลูกชายเคยคบกับ ผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วก็มีปัญหากันมาตลอด และผู้หญิงเป็นคนชอบพูดปั่นตอนที่เขามาอยู่ที่บ้านครั้งหนึ่งเคยไม่กลับบ้าน มารู้ว่าไปอยู่แถววัดย่านปากเกร็ด กับผู้ชายคนหนึ่ง ลูกชายเลยขอดูโทรศัพท์ว่าแชทคุยกับใคร นัดคุยกับใครทำให้มีการยื้อแย่งกัน หลังจากนั้นผู้หญิงเที่ยวไปพูดว่าลูกชายนั้นทำร้ายร่างกายโดยการกระทืบ แต่จริงๆแล้วแค่ผลัก แค่ดัน กัน หลังจากนั้นมารอบสองเป็นเรื่องที่มีการมาหยิบยืมเงินโดยทางพ่อผู้หญิงมาขอยืมเงินแม่ 15,000 บาทเพื่อนำไปจ่ายดอกค่าที่ที่นำไปจำนองไว้ตนเองก็ให้ยืมไป หลังจากเกิดปัญหากันมาลูกชายตนรู้สึกผิดที่อยู่ดีๆก็ให้แม่เสียเงิน 15,000 บาทไปที่ไม่ใช่เรื่องของแม่ ทำให้ทั้ง 2 คนมีปากมีเสียงกันลูกชายได้ยึดโทรศัพท์ผู้หญิงเอาไว้เพื่อให้เอาเงินมาคืนและจะคืนโทรศัพท์ให้ หลังจากนั้นก็เลิกลากันไป
ล่าสุดผู้หญิงไปทำงานที่ จ.กาญจนบุรี ทราบข่าวมาว่าเมาโดยมีนายเก้ามาพูดให้คนอื่นฟังว่าตัวผู้หญิงนั้นเมาโดนทั้งล้วง ทั้งควัก และดึงเข้าห้อง จังหวะนั้นลูกชายได้ยินจึงได้มีการแชทไปถามและติว่า ทำอาชีพนี้มันก็ไม่ ok แล้วนะทำตัวให้มีศักดิ์ศรีหน่อย ผู้หญิงเลยสอบถามกลับไปว่าใครเป็นคนพูด ลูกชายจึงบอกว่าคนชื่อเก้าเป็นคนพูด ตัวผู้หญิงกับไปบอกต่อกับคนๆหนึ่งว่า ลูกชายตนจะเอาปืนไปตบหน้าเก้า ทำให้เกิดเป็นประเด็นจึงเป็นสาเหตุมีการมาตามหาเจ้านัด(ลูกชาย) ส่วนจะมาเคลียร์หรือจะมาตีอันนี้ไม่รู้เพราะเห็นว่ามากันหลายคน ส่วนที่พาตัวลูกชายมามอบตัวในวันนี้เห็นข่าวแล้วเหมือนว่าเป็นการพูดข้างเดียว จริงๆตั้งแต่วันแรกแล้วลูกชายไม่ตั้งใจจะหนี เพียงอยากให้เรื่องซาลงหน่อยและจะกลับมามอบตัว
ทางด้านนายนัท ผู้ก่อเหตุกล่าวว่าวันเกิดเหตุมีคนมาบอกว่ามีคนชื่ออาจารย์ตี๋มาหา ตนเองไม่รู้จักจึงได้เดินออกไปหา โดยคนที่ตายกวักมือเรียกพร้อมกับพูดว่า “มึงมานี้ซิ” โดยเห็นว่ามีคนชื่อเก้ายืนอยู่ด้วย สังเกตเห็นว่ามีรถ จยย.มาด้วยกัน 2 คัน ตนจึงสอบถามไปว่ามีอะไร แต่คนตายถามกลับมาว่า “มึงพกปืนไหม” ตนเองก็บอกว่าพก หลังจากนั้นก็มีคนและ จยย.ตามมากันอีกตนเองก็พยายามเดินวน เพราะว่าทุกคนที่มาพยายามล้อมตน ตนเองบอกไปว่าถ้าจะคุยกับผมเข้าไปคุยกับผม 2 คนไม่ใช่มากันแบบนี้ซึ่งตนเองไม่รู้จักใคร หลังจากเปิดประตูเดินกลับเข้าไปคนตาย พูดว่า “มึงเก๋าเหรอ มึงมีปืนเหรอ มึงกล้ายิงหรือเปล่า” พร้อมกับถีบประตูเข้ามาตนเองเลยควักปืนที่พกมาด้วยยิงเข้าไป 1 นัดหลังจากนั้นทุกคนก็วิ่งหนีกันไป และจากที่บอกว่ามากันแค่ 3 คนนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการพูดสื่อสารในลักษณะพูดใส่ไฟใส่ร้ายกันเพราะที่บอกว่าผมจะเอาปืนไปตบหน้า ผมเองอยากจะถามกลับไปว่าผมรู้จักหรือเปล่าผมเองไม่รู้จักคนที่มาวันนั้นไม่รู้จักใครสักคน ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากผู้หญิงโดยการพูดใส่ไฟใส่ร้ายส่วนประเด็นที่ว่าผมจะเอาปืนไปตบหน้านั้น ผมยืนยันได้ว่าไม่ได้พูด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว นายสิปปวุฒิ หรือนัท ขึ้นรถตู้เดินทางไปหาอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุ และนำไปโยนทิ้ง ระหว่างการหลบหนีที่ จ.เพชรบุรี