หนุ่มแมสเซนเจอร์กลับจากทำงานสตาร์ทอุ่นเครื่องรถเก๋งแต่เกิดไฟไหม้เกือบวอดทั้งหลัง สุขสวัสดิ์ ซอย 1
วันที่ 5 ส.ค.63 เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.ไพรวิทย์ ปรือทอง รอง สว.สอบสวน สน.บางคอแหลม ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถยนต์ภายในบ้าน อยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 1 จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ปลูกติดกันสูง 3 ชั้น บ้านเกิดเหตุเลขที่ 358/40 ซอยสุขสวัสดิ์ 1 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พบรถดับเพลิง อยู่ระหว่างใช้น้ำฉีดระงับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบลง เมื่อเพลิงสงบลงแล้ว พบรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีบลอนเทา ทะเบียน กม 9083 นครปฐม อยู่ในสภาพ ไหม้จากช่วงท้ายรถแล้วรุกลามเข้าสู่ห้องโดยสารอย่างรวดเร็ว พื้นเพดานห้องได้รับความเสียหายจากความร้อนและไฟที่ไหม้โหมขึ้นอย่างรุนแรง เสียหายเพียงชั้นล่างชั้นเดียวเท่านั้น
นายกฤตินันท์ วรรณกริ่ง อายุ 35 ปี เป็นพี่ชายเจ้าของรถ เล่าว่า “ผมอยู่ชั้น 2 เด็กอยู่ชั้น 3 ลูกผมทักว่าควันอะไรลอยเข้ามา ผมเลยเปิดประตูออกไป ควันปะทะพุ่งใส่ตัวผม ผมเลยปิด แล้วลูกผมอยู่ชั้น 3 แต่ลงมาหมดแล้ว ผมเลยปีนลงทางหน้าต่างลงมา แต่ปลอดภัยหมด พักกันอยู่ผู้ใหญ่ 4 คนเด็ก 2 คน ผมรู้แค่ว่าน้องผมสตาร์ทรถ เพราะไม่ได้ไปไหน เลยวอร์มเครื่องยนต์ไว้ แล้วเดินเข้าไปหลังบ้าน ก็เกิดระเบิดขึ้น ไฟรุกพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วครับ”
นายพัชระ พิพัฒน์ อายุ 25 ปี เป็นเจ้าของรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า “ผมกลับจากทำงาน ก็หยิบกุญแจรถจะมาสตาร์ทเครื่องไว้เพราะ ไม่ได้ไปไหนนานแล้ว ผมก็เดินไปล้างหน้า กลับออกมา ไฟก็รุกโชนพุ่งขึ้นอย่างเร็ว ผมก็รีบวิ่งออกมาเรียกเพื่อนข้างบ้านให้ช่วย เด็กๆกับพวกพี่ๆผมข้างบนก็ให้ลงมาหมดแล้ว ผมซื้อรถคันนี้ต่อเค้ามาประมาณ 3 ปีแล้ว ไม่ค่อยได้ขับไปไหน แต่รถอ่ะ ปี 02 ตอนเย็นผมได้กลิ่นน้ำมันมันฉุน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็ตกใจ และก็งงว่า เป็นเพราะอะไร”
้เพื่อนบ้านละแวกบ้านใกล้เคียงที่ได้รู้ว่าเกิดเหตุขึ้นต่างได้ออกมายืนมุงดูเป็นจำนวนมาก และต่างคนต่างพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ว่า “ได้ยินเสียงดังมาก จึงออกมาดูว่าเกิดไรขึ้น ก็เห็นไฟไหม้แล้ว”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากบริเวณสายไฟของลำโพงรถด้านหลังของตัวรถอาจจะมีการฉีกขาดของสายไฟบางเส้นโดยที่เจ้าของรถอาจจะไม่รู้ตัวมาก่อนก็เป็นได้ พอเจ้าของรถไปเสียบกุญแจรถเพื่ออุ่นเครื่องรถแล้วระบบไฟในรถก็เกิดการทำงานจึงทำให้มีสะเก็ดไฟจากการสปาร์คแล้วกระเด็นไปโดนน้ำมันที่อาจจะมีการรั่วซึมของเครื่องยนต์ก็เป็นได้เพราะเจ้าของรถก็บอกว่าก่อนที่จะสตาร์ทรถนั้นได้กลิ่นน้ำมันบริเวณด้านล่างของตัวรถอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่ได้มีการเอะใจว่าน้ำมันของรถตนเองอาจจะเกิดการรั่วไหลหรือเปล่าแล้วก็ทำการติดเครื่องยนต์เพื่อต้องการที่จะอุ่นเครื่องยนต์เอาไว้เนื่องจากไม่ได้สตาร์ทรถมานานแล้ว ก็เกรงว่าเครื่องยนต์รถของตนเองอาจจะเสียหายก็เป็นได้ แต่อย่างไรแล้วก็ต้องรอผลจากการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก่อนถึงจะสรุปถึงเหตุการณ์ที่แท้จริงต่อไปได้ ส่วนเบื้องต้นก็จะเชิญเจ้าของรถไปสอบถามเพิ่มเติมที่ สน.ไว้ก่อน
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.