พิษณุโลก ผู้ว่าสั่งตั้งคณะกรรมการสอบ หลังชาบ้านฝากเงินธนาคารหมู่บ้านนับ100 ล้าน แต่เบิกไม่ได้
จากกรณีนางยุพิน นาคกลม ชาวบ้าน ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก พร้อมผู้เสียหายจำนวนหนึ่งได้นำรายชื่อหางว่าวเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอธิปไตย ไกรราช ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ตรวจสอบข้อเท็จจริง”ธนาคารหมู่บ้าน ตามแนวพระราชดำริ ศูนย์สาธิตบริหารเงินระดับหมู่บ้านตำบลนาบัว เนื่องจากมีผู้นำเงินไปฝากในพื้นที่อำเภอนครไทยกว่า 100 ล้านบาท แต่เบิกเงินออกมาใช้ไม่ได้ จึงได้พากันไปร้องเรียนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 ด้าน นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังทราบจากศูนย์ดำรงธรรม จึงได้มอบหมายให้นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าเป็นผู้รับผิดชอบ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายนิสิต สวัสดิเทพ นายอำเภอนครไทยเป็นประธาน โดยหลังเลือกตั้งจะดำเนินการเข้าไปสอบ ซึ่งมีข้อมูลบางอย่าง รอจังหวะที่จะเข้าไปสอบอยู่แล้ว เบื้องต้นทางนายอำเภอได้รายงายด้วยวาจา ธนาคารหมู่บ้านแห่งนี้ดำเนินมานานมากแล้ว ร่วมๆ20 กว่าปี ผลการดำเนินงานตอบสนองความต้องการของประชาชนในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี เป็นแหล่งเงินทุนให้กับพี่น้องประชาชน สามารถที่จะกู้ไปประกอบอาชีพ หรือยามที่เงินขาดมือ ดำเนินกิจการไปได้ดี มีความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนที่เอาเงินมาฝากเป็นจำนวนมากใกล้ 100 ล้าน
หรือ100ล้านกว่าบาท เป็นลักษณะธุรกิจกู้ไปใช้คืน
ผู้ว่าพิษณุโลก กล่าวว่า ในเรื่องที่มีการร้องเรียน ต้องไปตรวจสอบ มีทุจริตจริงไหม ถ้าจริงตรงไหน ใครดำเนินการ ซึ่งจะต้องจัดการ อยากให้ดูเป็นส่วนๆ ภาพรวมของธนาคารยังเข้มแข็งดีดำเนินการตรงไปตรงมา อาจจะมีเจ้าหน้าที่ใครบางคนทุจริต ต้องไปจัดการตรงนั้น เพราะธนาคารดำเนินการมา 20 กว่าปี มีความเข้มแข็งพอ อาจเป็นไปได้ว่าคนที่ดำเนินการคณะกรรมการ อาจจะมีผลอย่างไรที่ทำให้ขาดความเชื่อมั่น ทราบว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เงินส่วนนี้ตั้งต้น เราต้องรักษาเอาไว้ และยังคงอยู่ได้ให้พี่น้องประชาชนเป็นที่พึ่งได้ ทำให้พี่น้องประชาชนรู้จักเก็บออมการบริหารเงิน รู้จักการทำธุรกิจ ในเรื่องของการบริหาร สะดวกต่อพี่น้องประชาชนจะ กู้ยืม
แหล่งข่าวแจ้งว่า หลังจากมีประชาชนเข้ามาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ปรากฏว่า มี ผู้นำชุมชนคนหนึ่ง ซึ่งมีอิทธิพลและเป็นผู้กว้างขวาง ได้ไปข่มขู่และกดดันถึงบ้านพักให้ระงับเผยแพร่ทางสื่อ และถอนเรื่องร้องเรียน ทำให้เกิดความหวาดกลัวกับผู้ ร้องเรียนเป็นอย่างมาก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ว่าผู้นำท้องที่คนดังกล่าว เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องร้องเรียนอย่างไร เพราะชาวบ้านมีความ จำเป็นต้องการเบิกใช้เงินไปใช้ในชีวิตประจำ แต่เบิกไม่ได้เท่านั้น
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก