ข่าวพาดหัวฉ้อโกงประชาชนช่วยชาวบ้าน

สิงห์บุรี – ฝากขังเจ๊กั้งพร้อมสมุน ทนายเกิดผลลั่นจะอยู่สู้กับน้องฟ้าไม่ถอย

สิงห์บุรี 091264 ฝากขังเจ๊กั้งพร้อมสมุน ทนายเกิดผลลั่นจะอยู่สู้กับน้องฟ้าไม่ถอย

เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ ( 9 ธันวาคม 2564) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อินทร์บุรี ได้ควบคุมตัว น.ส.นัยน์ปพร เนตรบุตร หรือ เจ๊กั้ง และนายศราวุธ บุญคง หรือ นายอ้วน สมุนมือขวาของ เจ๊กั้ง ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อเดินทางไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 วันที่ควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.อินทร์บุรี ยังไม่มีญาติเดินทางมายื่นเรื่องขอประกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งสภาพสีหน้าของทั้งคู่ดูมีอาการเคร่งเครียดและไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ กับทางผู้สื่อข่าวทั้งสิ้น จนหมดเวลาประกัน เจ๊กั้งกับพวกจึงถูกส่งตัวเข้าที่เรือนจำสิงห์บุรี

ต่อมา นายฐปนวัชร และ นายฟ้า ได้เดินทางมาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ที่ได้โพสต์บนเพจของทนายว่า “ย้อนกลับไปดูรายการ โหนกระแส เทปนี้ ยิ่งดูยิ่งหดหู่ ผมจะเข้าไปช่วยน้องทางคดี และจะเรียกค่าสินไหมทดแทน เรียกค่าเสียหายที่เขาทำร้ายร่างกาย และจิตใจ น้องคนนี้ จะตามยึดทรัพย์สินมันมาชดใช้ให้น้อง เพื่อนำเงินคนทรามมารักษาแผลกาย แผลใจ ให้น้อง จนถึงที่สุด สู้ๆกับน้องฟ้า” และเข้าร่วมประชุมกับส่วนราชการ ณ ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี ในการช่วยเหลือดูแลเยียวยา

น.ส.พัชรินทร์ ภูมิลำเนา จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ นายฟ้า มาพร้อมกับญาติๆ เพื่อมาดักรอน้องได้เล่าว่า “ตอนแรกที่เห็นข่าวก็ไม่รู้ว่าเป็นน้องชายของตัวเอง จนมารู้อีกทีคือ อาของ นายฟ้า โทรมาบอก ตนก็ตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงและน้องจะถูกกระทำรุนแรงขนาดนี้ โดยอาที่รู้ข่าวได้ร้องไห้เสียใจและให้ตนมาดูน้องที่จะมาสิงห์บุรีในวันนี้ ตอนนี้ได้เจอน้องแล้วหลังจากไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบ 20 ปี ดีใจที่ได้เจอ แต่ก็เสียใจที่มีคนจิตใจโหดเหี้ยมทำร้ายน้อง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนิคดีกับ “เจ๊กั้ง” ให้ถึงที่สุด

น.ส.ขวัญ พี่สะใภ้ของ นายฟ้า ได้เล่าว่า ตอนที่จะไปลักพาตัวน้องออกมาคือต้องรอเวลาที่น้องปล่อยหมา และรอน้องเก็บขี้หมาเสร็จ จึงหลอกให้น้องมาเอาของในรถ แล้วก็รีบขับพาน้องกลับออกมาเลย พอวันรุ่งขึ้นหลังจากหาหมอแล้ว ตนก็เอาโจ๊กไปให้แล้วก็ถามน้องว่า ฟ้าอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม บอกพี่ได้นะไม่ต้องเกรงใจ น้องบอกว่า “ไม่เป็นไร เอาข้าวใส่น้ำเปล่าผมก็กินได้ ขอให้เป็นน้ำๆ แต่ถ้าเป็นไปได้ขอข้าวไข่เจียว เพราะอยู่โน่นเวลาเขาทอดน้องได้กลิ่นมันหอม แต่ไม่เคยได้กิน” เราก็อึ้งน้ำตาคลอเลย ไข่เจียวน้องยังไม่เคยได้กินเลย หลังจากน้องมาอยู่ใหม่ๆ น้องมีอาการหวาดผวาเวลาที่เราเปิดประตู แต่ในช่วงหลังน้องเริ่มดีขึ้น เป็นห่วงในเรื่องตาด้านซ้ายของน้องมีปัญหาคือ มองไม่เห็น เห็นแต่แสงวิบวับ และฟันเนื่องจากกรามหักและฟันก็ไม่มีด้านซ้ายทำให้กินอะไรไม่ถนัด ซึ่งก็จะพาน้องไปรักษาอาการต่อไป

หลังจากที่ออกจากห้องประชุม ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายคนดัง ได้กล่าวว่า “ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังคัดกรองว่าการกระทำของ เจ๊กั้ง นั้นเข้าข่ายว่าค้ามนุษย์หรือไม่ ถ้าหากว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์ก็จะดำเนินการตามขบวนการตามขั้นตอนอยู่นะครับ ในส่วนตัวผมเอง จะเข้ามาช่วยน้องเป็นทนายโจทย์ร่วมเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนนอกจากในส่วนที่ทางราชการได้เยียวยาแล้ว และคงจะช่วยกันจนถึงที่สุด ดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ส่งตัวไปตรวจสุขภาพจิตเพื่อประกอบสำนวน และคนที่ทำร้ายน้องต้องมีรับผิดชอบด้วย ถ้าต้องยึดทรัพย์สินหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาก็ต้องยึดมาขายทอดตลาดก็ต้องทำ เพื่อมารักษาน้อง ส่วนในเรื่องอื่นๆ คือ การบังคับใช้แรงงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการค้ามนุษย์ อีกอย่างหนึ่งคือ นายจ้างรายนี้ใช้น้องไปเปิดบริษัท และไปเปิดบัญชี ซึ่งน้องได้บอกว่า ผมได้เซ็นเช็คมากมายเลย ถ้ามีปัญหาแบบนี้ก็จะพาน้องไปปิดบัญชี และลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และต้องฝากประชาสัมพันธ์สำหรับผู้ที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทนี้ ถ้าเช็คเด้งขึ้นมา น้องจะถูกคดีอาญาขึ้นมาต้องหารือกันต่อไปอีก เพราะเขาวางแผนให้น้องเซ็นเช็คไว้ล่วงหน้าตั้งหลายใบ โดยน้องฟ้าได้ถูกหลอกล่อว่าเป็นเจ้าของกิจการต้องเป็นผู้เซ็นเช็ค สำหรับน้องฟ้าได้กล่าวว่า ต้องไปรักษาตัวและสบายใจที่ท่านทนายเกิดผล เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้

จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี