ใกล้สิ้นปีคดีลูกจ้างโกง 40 ล้านไม่คืบหน้า กก.ธรรรมาภิบาลจี้ ผวจ. ประจวบฯสั่งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดหยุดทำหน้าที่หลัง มท.ส่อแช่แข็งผลสอบวินัยร้ายแรง
จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 30 ปี อดีตพนักงานราชการ สำนักงาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 หลังจากนำเงินงบประมาณของราชการกว่า 40 ล้านบาท โอนผ่านระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS เข้าบัญชีส่วนตัว พบการกระทำความผิด 165 ครั้ง ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม มีคำสั่งปล่อยตัว น.ส.ขนิษฐา พ้นการคุมขังจากเรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2563 หลังครบกำหนดฝากขัง 7 ผัด รวม 84 วัน
วันที่ 19 ธันวาคม นายสุวรรณ ทองกรอย ประธานสภาทนายความ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะทนายความของจำเลยที่ 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 7 ยังไม่มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 น.ส.ขนิษฐา จำเลยที่ 2 น.ส.สายพิณ ดิบดีพร้อม อายุ 62 ปี มาดาของ น.ส.ขนิษฐา และจำเลยที่ 3 นางประชิต วงศ์ประภารัตน์ หัวหน้างานการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากถูกแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หลังจากมีการเลื่อนนัดวันฟังคำสั่งฟ้องแล้วหลายครั้ง ขณะที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้พนักงานอัยการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ทั้งนี้ปัจจุบัน น.ส.ขนิษฐา อยู่ระหว่างถูกคุมขังด้วยคดีอื่นในเรือนจำที่ กทม.
นายสุวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจำเลยที่ 2 ได้ปฏิเสธได้ตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่มีส่วนรู้เห็นกับการทุจริตของบุตรสาว และอยู่ระหว่างรอพนักงานอัยการจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ สำหรับ น.ส.ขนิษฐา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นทราบว่าพนักงานอัยการฯ แจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองติดตามผลการสอบทางวินัยร้ายแรง กับข้าราชการระดับสูงในสำนักงานจังหวัดเพื่อนำไปประกอบสำนวน แต่กระทรวงมหาดไทย ยังไม่ส่งผลสอบสวนให้จังหวัดทราบ หลังจากใช้เวลาสอบสวนนานผิดปกติกว่า 1 ปี
นายสมนึก รุ่งกำจัด กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ( กธ.จ.)ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จะนำคดีนี้เข้าหารือใน กธ.จ.หลังมีการตั้งข้อสังเกตว่าทั้งพนักงานอัยการฯ ยังไม่สั่งฟ้องคดี คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงของกระทรวงมหาดไทยใช้เวลาสอบสวนวินัยร้ายแรงนานเกินไปหรือไม่ ทั้งที่คณะกรรมการระดับจังหวัดใช้เวลาสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ใช้เวลาสรุปได้ไม่เกิน 1 เดือน สำหรับ กธ.จ มีหัวหน้าสำนักงานจังหวัด ซึ่งถูกตั้งกรรรมการสอบวินัยร้ายแรงในคดีนี้ ปัจจุบันยังทำหน้าที่เลขานุการ กธ.จ.โดยตำแหน่ง จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หากมีนโยบายการปราบทุจริต ส่งเสริมการทำงานตามหลักธรรมาภิบาล ควรพิจารณาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ทั้งการทำหน้าที่เลขา กธ.จ.และทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงานจังหวัดตามปกติ หรือควรเสนอให้กระทรวงมหาดไทยสั่งพักงานจนกว่าจะทราบผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง
จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้ยื่นร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และจะสอบถามปลัดกระทรวงมหาดไทยกรณีจะแต่งตั้งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบฯขึ้นดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีผลการสอบสวนในคดีทุจริต ขณะที่ก่อนหน้านี้ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง สรุปรายงานผลการสอบสวนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งแต่กรกฎาคม 2563 หลังพบการทุจริตตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 ต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายน 2563
“ ล่าสุดยังไม่มีผลสรุปจากการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทย ถือว่าล่าช้าผิดปกติ ขณะที่ผลการสอบสวนระดับจังหวัด ระบุว่า เป็นความบกพร่องของผู้เกี่ยวข้องทั้ง นางประชิต และ นางกัลยารัตน์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด อาจเข้าข่ายประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง หลังจากมอบรหัสในการเบิกจ่ายงบให้ลูกจ้างเข้าถึงระบบเพื่อทุจริตนาน 14 เดือน” จ.อ.เสกสรรค์ กล่าว /////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 3396 4 4 4