กรณีเคส รปภ.ข่มขืนสาว นิติบุคคลคอนโดและรปภ ชี้แจง ไม่ได้เข้าข้างหัวหน้า รปภ และกีดกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันที่ 5 มกราคม 2565 เวลา 12.20 น.
นายเกียงคำ สาระวัลย์ อายุ 57 ปี รปภ. ที่ประจำอยู่ป้อมหน้าคอนโดในคืนเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ในคืนนั้นตนประจำการอยู่ที่ป้อมหน้า โดยช่วงเวลาประมาณตี 1 ก็ทราบว่าหัวหน้ามนตรีได้พาช่างกุญแจขึ้นไปเปิดห้องให้กับลูกบ้าน พอช่างกุญแจกลับไป หัวหน้ามนตรีก็เดินมาคุยกับตนก่อนจะเดินหายไปช่วงเวลาประมาณ 01.27 น. สักพักก็มีคนเข้ามาที่คอนโด แจ้งว่าเป็นญาติกับลูกบ้านซึ่งลูกบ้านเพิ่งถูกข่มขืน โดยญาติของผู้เสียหาย เป็นตำรวจด้วย ตนจึง ว. ไปบอกกับหัวหน้ามนตรี ซึ่งเป็นไปตามระเบียบที่หากมีบุคคลภายนอกจะติดต่อเข้าภายในพื้นที่ รปภ. ที่ป้อมจะต้องแจ้งและได้รับการอนุมัติจากหัวหน้า รปภ. ก่อน ซึ่งวันนั้นหัวหน้ามนตรีไม่ได้ตอบรับกลับมา ตนจึงไม่สามารถอนุญาตให้ญาติของผู้เสียหายเข้ามาในพื้นที่ได้ และเพิ่งมารู้ภายหลังว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยหัวหน้ามนตรีเป็นผู้ก่อเหตุเอง
โดยในคืนนั้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกระเป๋าของหัวหน้ามนตรี ก็พบกุญแจมือ เทปพันสายไฟ และมีด ซึ่งไม่ใช่อุปกรณ์ที่ต้องพกไว้สำหรับการทำงาน และตนก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าหัวหน้ามนตรีพกอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ในกระเป๋า
ทั้งนี้ พอตนรู้ว่าหัวหน้ามนตรีเป็นคนก่อเหตุก็รู้สึกโกรธและเจ็บแค้นใจมาก เพราะลูกบ้านที่เป็นผู้เสียหายคนนี้เป็นคนใจดี จะคอยเอาอาหารเอาน้ำมาฝาก รปภ. อยู่เสมอ ซึ่งตนมองว่าผู้เสียหายเป็นผู้มีพระคุณ หัวหน้ามนตรีไม่น่าจะทำเช่นนี้ และหากในคืนนั้นตนรู้ว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ตนจะขึ้นไปช่วยด้วยตนเอง แม้ตัวเล็กก็จะสู้ และจะไม่ห้ามไม่ให้ญาติขึ้นไปด้วย โดยคืนนั้นตนเองก็ถูกญาติของผู้เสียหายตบเข้าที่ใบหน้า เนื่องจากไม่พอใจที่ตนกีดกันไม่ให้ขึ้นไป ซึ่งตนก็ไม่ถือโทษโกรธเพราะยอมรับผิดว่าตนเองบกพร่องจริง แต่ในเช้าวันรุ่งขึ้นหัวหน้ามนตรีได้ส่งข้อความมาหาตน บอกว่าขอโทษที่ทำให้ต้องโดนตบหน้าและบอกว่าที่ทำไปเพราะรักผู้เสียหายแอบมองมานานแล้ว
สำหรับตัวหัวหน้ามนตรีนั้น ตนรู้จักตั้งแต่เข้ามาทำงานด้วยประมาณสองปีแล้ว โดยปกติเป็นคนที่ชอบทำงานเอาเปรียบลูกน้อง อีกทั้งยังเคยมาพูดกับตนว่าเขาเล็งลูกบ้านผู้หญิงคนนั้นคนนี้ ซึ่งตนก็ได้เตือนไปว่าอย่าไปยุ่งกับลูกบ้าน ส่วนพฤติกรรมในการเสพยา ตนคาดว่าหัวหน้ามนตรีน่าจะเสพยาจริง เพราะก่อนจะหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้มายืมเงินหัวหน้าอีกคนไป 1,500 บาท และช่วงปีที่ผ่านมาก็เคยมีอาการคล้ายหลอนยา โวยวายบอกว่าจะลาออกด้วย
ขณะที่ นางสาวสุมินตรา นรขุน ผู้จัดการการอาคาร และ นายปกครอง อรรจนาการ ผู้จัดการพื้นที่ ของคอนโดดังกล่าว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหลังจากผู้ก่อเหตุลงไปส่งช่างกุญแจก็ได้กลับขึ้นมาแล้วมาเคาะประตูหน้าห้องของผู้เสียหายโดยหลังจากผู้เสียหายเปิดประตูก็มีการพูดคุยกันสักพักหนึ่งและก็เข้าไปในห้องก่อนจะเกิดเหตุขึ้น พร้อมยืนยันว่า ที่ไม่อนุญาตให้ญาติของผู้เสียหายขึ้นไปนั้น เป็นขั้นตอนการทำงานของบริษัทรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่ว่านิติบุคคลเป็นผู้กีดกัน
โดยในส่วนของคอนโดเอง จะว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยซึ่งกลับบริษัทนี้ได้ทำสัญญากันมากว่าสามปีแล้วซึ่งที่ผ่านมาก็มีมาตรฐานการทำงานที่ดีส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ก่อเหตุเข้ามาทำงานได้ประมาณเกือบสองปีก็ยังไม่เคยมีลูกบ้านมาร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมที่ไม่ดีแต่ในเรื่องของการตรวจสอบประวัติก่อนรับเข้าทำงานนั้นเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ บริษัทรักษาความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทางคอนโดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเรียกบริษัทรักษาความปลอดภัยให้เข้ามาประชุมชี้แจงแล้ว เพราะเรื่องความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ทางคอนโดยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นซ้ำ และจะตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะเข้ามาทำงานด้วยตนเองอีกทางหนึ่งด้วย และตอนนี้ได้ออกมาตรการสั่งห้าม รปภ. ขึ้นตึกในยามวิกาลทุกกรณี ส่วนตัวผู้เสียหาย ได้มีการติดต่อพูดคุยกันแล้ว ทางคอนโดยินดีช่วยเหลืออำนวยความสะดวก และเยียวยากับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งลูกบ้านยืนยันว่าจะเข้ามาขนของและขอย้ายออกหลังจากนี้
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.