ช่างไฟฟ้าหวิดดับ หม้อแปลงระเบิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านตกใจวิ่งหนีอลหม่าน ย่านจอมทอง
วันที่ 15 มกราคม 2565
เวลา 9.50 น.
อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟฟ้าช๊อต ภายในซอย จอมทอง16 จึงรีบรุดจัดอุปกรณ์พร้อมรถกู้ภัยในระบบ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยดาวคะนอง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่ออาสาสมัครพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุพบอยู่ภายในซอย จอมทอง 16 แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 อายุ 56 ปี รายในสภาพมีบาดแผลถูกไฟไหม้ที่บริเวณใบหน้า และลำตัว อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นถนน อาสาสมัครจึงรีบรุดจัดชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือแล้วนำส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บต่อที่โรงพยาบาลบางประกอก 9 ทันทีอย่างเร่งด่วน
และจากการตรวจสอบเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุพบว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นบริเวณด้านหลังของร้านสะดวกซื้อ ซอย จอมทอง 16 เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุพบว่ามีการระเบิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งอยู่บริเวณด้านหลัง และมีร่องรอยของการฉีดพ่นด้วยน้ำยาเคมีที่สำหรับใช้ดับเพลิง แล้วหม้อแปลงดังกล่าวรวมทั้งสายไฟฟ้ามีร่องรอยจากการถูกไฟไหม้อย่างเห็นได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงประสานต่อไปทางการไฟฟ้านครหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุต่อไป
จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ระหว่างที่ตนช่วยแม่ขายดอกไม้อยู่นั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากจุดเกิดเหตุ แล้วก็เห็นคนกระเด็นตกลงมาจากบันได ต่อจากนั้นก็มีแสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว แล้วเหตุการณ์ก็เกิดชุลมุน จนมีชาวบ้านแถวนี้เอาถังน้ำยาเคมีมาช่วยกันดับไฟ และแจ้งอาสาสมัครให้มาช่วยคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้นอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุและหาข้อมูลเบื้องต้นจากชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์บริเวณโดยรอบต่างก็บอกว่า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าผู้ได้รับบาดเจ็บได้นำบันไดลักษณะเป็นไม้ไผ่ขึ้นไปพาดกับกำแพงของร้านสะดวกซื้อ แล้วปีนขึ้นไปเพื่อจะเปลี่ยนหม้อแปลงบริเวณด้านหลังร้านดังกล่าว โดยบอกว่าหม้อแปลงดังกล่าวเก่าแล้ว จึงจำเป็นต้องทำการเปลี่ยน แล้วในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ก็อาจจะเกิดข้อผิดพลาดจึงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร และเกิดการระเบิดของหม้อแปลงดังกล่าว ก็เลยเป็นเหตุให้ช่างผู้ดำเนินงานได้รับบาดเจ็บในเวลาต่อมาก็เป็นได้
อย่างไรแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง และต้องรอการสอบถามสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนถึงจะสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
