ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวทารุณกรรมสัตว์บุกรุกที่ป่า

กาญจนบุรี – กรมอุทยานฯสั่งขับไล่-รื้อถอนบ้าน พรานป่า 5 คน ฆ่าเสือโคร่ง

กาญจนบุรี กรมอุทยานฯสั่งขับไล่-รื้อถอนบ้าน พรานป่า 5 คน ฆ่าเสือโคร่ง เครือญาติ และบริวาร ไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ภายใน 30 วัน ฝ่าฝืนไม่ออก-ไม่รื้อ คุก4ปี-20 ปี ปรับ4 แสน -2ล้าน บาท


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 เจ้าหน้าทีอุทยานแห่ชาติทองผาภูมิได้ทำการตรวจยึดซากเสื่อโคร่ง จำนวน 2 ซาก และอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก ซากเสือโคร่งจำนวน 2 ซากและเครื่องมือในการในการกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง ได้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เหตุเกิดในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี


วันนี้ 18 ม.ค. 2565 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย “ทส.เป็นหนึ่งเดี่ยว” และทส. ยกกำลัง X ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตามข้อสั่งการ ของนาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้อสั่งการของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ยกระดับการปฏิบัติการ ในการป้องกัน และปราบปราม การลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า และล่าสัตว์ป่า ให้เด็ดขาด และเข้มข้น ในจังหวัดกาญจนบุรี


นายนิพนธ์ฯ ได้เปิดเผยต่อไปว่า ตามที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบไปด้วย1.นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปีอยู่บ้านเลขที่ 91/พ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 2. นายศุภชัยเจริญทรัพย์ อายุ 34 ปีอยู่บ้านเลขที่ 91/พ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 3.นายจอแห่ง ธนารักษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/พ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
5.นายโซว ไม่มีนามสกุล อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 /ซ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี


ได้ถูกดำเนินคดี ในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง เสือโคร่ง ที่ใกล้สูญพันธุ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิโดยไม่ได้รับอนุญาตรวมทั้งข้อหาอื่นๆอีก 10 ข้อหารวมเป็น 11 ข้อหา เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2565 กับวันที่ 15 มกราคม 2565และเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 คณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักอาศัยของผู้ต้องหา 5 คน( 4 หลัง)ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมท้องที่หมู่ที่ 4 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีแต่ไม่พบพยานหลักฐานการกระทำการกระทำผิด
นายนิพนธ์ฯกล่าวต่อไปว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เครือญาติ และ บริวาร ที่อยู่อาศัย ในบ้าน หรือโรงเรือน ทั้ง 4 หลังดังกล่าว ได้รับการผ่อนปรน ให้อยู่อาศัย ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 แต่มติคณะรัฐมนตรี ดังกล่าว ด้านป้องกันพื้นที่ ป่าไม้และอื่นๆ ได้บัญญัติไว้ว่า ถ้ามีการ กระทำการใดๆ มันเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่ หรือขยายพื้นที่อยู่อาศัย ที่ทำกินเพิ่มเติม หรือเป็นการทำลาย หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาป่า หรือสิ่งแวดล้อม
ให้ดำเนินการ ตามกฎหมายโดยเฉียบขาด และเพื่อป้องกัน มิให้มีการยึดถือครอบครอง พื้นที่ ให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ สั่งให้ผู้กระทำความผิด ออกจากพื้นที่ ทำลาย รื้อถอน และหรือ ดำเนินการอื่นๆ ตามกฎหมายกำหนด


นายนิพนธ์ฯยังกล่าวต่อไป อีกกว่า การที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้กระทำการล่าเสือโคร่งที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ใกล้ สูญพันธุ์ หรือกระทำการ ผิดกฎหมายข้อหาอื่น ๆในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ส่วนเครือญาติและบริวาร ที่อาศัยอยู่ในบ้านหรือโรงรือนดังกล่าว รู้ หรือ ควรรู้ ในเรื่องดังกล่าว กับไม่ห้ามปราม การกระทำในลักษณะดังกล่าว เป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนต่อการรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมจึงเป็นการฝ่าฝืนหรือผิดเงื่อนไข ตามมติ คณะรัฐมนตรี 30 มิ.ย. 2541ด้านป้องกัน เพราะฉะนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เครือญาติ และบริวาร ที่อยู่ในบ้านหรือโรงเรือนทั้ง 4 หลัง ดังกล่าว จึงต้องออกจากในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และต้องทำลาย รื้อถอน บ้านหรือ โรงเรือน ทั้ง 4 หลัง ดังกล่าว ไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ด้วย ตามมติครม. 30 มิ.ย 2541 ด้านป้องกัน ที่ได้บัญญติไว้
นายนิพนธ์ฯจึงได้สั่งการให้ นายกมลาศ อิสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายศรันย์วุฒิ พรสรายุทธ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.18 (วังเกียง) ร.ต.อ. มานพ สุทธบุตร รองสารวัตรกองกำกับการ5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) หหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปราม. กาญจนบุรี และผู้พิทักษ์ป่า รวม 30 นาย ให้ไปติดประกาศคำสั่ง ให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เครือญาติ และบริวาร ที่อยู่ในบ้าน หรือโรงเรือนทั้ง 4 หลังดังกล่าวต้องออกไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมและต้องรื้อถอน บ้าน หรือโรงเรือน ไปให้พ้นในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้ มิฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตาม พรบ. อุทยานแห่งชาติ พ. ศ. 2562 มาตรา19(1) ฐาน ยึดถือครอบครอง ที่ดินภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 แสน ถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นายนิพนธ์ฯกล่าว
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี