สำเร็จว่ายน้ำ 7 ชั่วโมงไม่มีพัก นิคกี้ ศรุตา ฟอร์ซอง อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ว่ายน้ำเจ้าพระยาข้ามอำเภอถึงฝั่งวัดพุทไธศวรรย์ อย่างปลอดภัย
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 มกราคม 2565 ที่ บริเวณท่าน้ำ หน้าวัด วัดพุทไธศวรรย์ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น.ส.วิศรุตา ฟอร์ซอง หรือ นิคกี้ อายุ 36 ปี เจ้าของวิลล่าเกาะสมุย เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ซึ่งหายป่วยจากโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ได้ว่ายน้ำข้ามอำเภอ จาก อำเภอบางปะอิน มุ่งหน้า อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นระยะทาง 23 กม. รำลึกถึง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากก่อนหน้าป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย จึงขจัดความกลัวลงแข่งไตรกีฬาจนชนะโรคร้าย เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคซึมเศร้า และ โรคเครียด ให้มีกำลังใจเข้มแข็งในการต่อกับโรคร้าย และสู้ชีวิตต่อ
ซึ่ง ว่ายน้ำออกจากท่าน้ำ หน้า วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อำเภอบางปะอิน จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ว่ายมาตามเส้นทางน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา แบบไม่หยุดพักระยะทาง 23 กม. ตลอดระยะทางกว่า 7 ชั่วโมง เพื่อ รำลึกถึง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมี นาย ชัชชัย กิตติชัย คณะกรรมการสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา นำชุดทีมเรือเจ้าพระยา ของสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา และเจ้าหน้าที่ประดาน้ำ มาคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง เพื่อความปลอดภัย
ที่ท่าน้ำ มี นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รอง ผู้ว่าราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยามา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นำช่อดอกไม้ พร้อมกระเช้า ร่วมแสดงความยินดี ที่สามารถทำภารกิจที่ตั้งใจไว้สำเร็จ หลังจากนั้นได้เข้ากราบไหว้ ที่หน้าพระราชานุสาวรีย์ 5 พระมหากษัตริย์ไทย ผู้ทรงมีความสำคัญแก่บ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ได้แก่ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทางวัดได้จัดสร้างไว้ พร้อมวางพวงมาลาที่ด้านหน้า เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแต่ละพระองค์
น.ส.วิศรุตา กล่าวว่า รู้สึกปราบปลื้มที่เกิดมาเป็นคนไทย ขอแสดงความระลึกถึงด้วยการกระทำไม่ใช่ด้วยคำพูด การระลึกถึงผู้มีพระคุณทั้งหลายถ้าเราได้แต่พูดแล้วไม่ลงมือทำก็จะไม่เห็นรูปธรรม อันนี้ก็เป็นแค่ตัวอย่างนึง ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศเห็น ว่าการระลึกถึงในพระคุณสามารถแสดงออกได้โดยการกระทำ พร้อมฝากเป็นกำลังใจอย่าท้อแท้ ถ้าเราเอาแต่คิด แต่เราไม่กระทำทุกอย่างจะสำริดได้เกิดเป็นรูปธรรมได้ก็คือการแอคชั่น เราต้องลุกขึ้นและกระทำ ถ้าเราหาแต่แรงบันดานใจ จากคนอื่นมีได้แต่เป็นเพียงชั่วแว๊บเดียว แต่กำลังใจที่ดีที่สุดคือต้องออกมาจากตัวเองเท่านั้น ถึงจะมีคุณค่าแก่การดำรงชีวิต