รอง.ผบก.ภ.ประจวบฯตรวจเส้นทางต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายพบแก๊งค้าแรงงานหัวใสทำสัญลักณ์บอกทาง
25 ม.ค.65 พ.ต.อ.ภาคภูม โห้ใย รอง.ผบก.ภ.ประจวบฯพร้อม พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.ท.ศักดา จำปาทอง รองผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.ชุมพล บางจันทร์ทึก รอง ผกก.ป.ฯและกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกลงตรวจพื้นที่ ช่องสิบศพ ม.3 ต.เกาะหลัก และพื้นที่ วังตะเคียน ม.9 ต.คลองวาฬ เป็นจุดพักคอยของแรงงานต่างด้าวระหว่างรอผู้นำพามารับส่งไปทำงานตามโรงงานในจังหวัดต่างๆนั้น สืบเนื่องจากผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองจำนวน 22 คนพร้อมผู้นำพา 1 คน เมื่อวันที่24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผลปฎิบัติในการจับกุมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับทหารทราบว่า มีแรงงานต่างดาวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากจนทำให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดจับกุมต้องผลักดับแรงงานพม่าบางส่วนที่ไม่สามารถจับกุมตัวผู้นำพาได้ส่งกลับประเทศตามนโยบายของจังหวัดฯ ในกรณีจับผู้นำพาได้ให้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พ.ตอ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง.ผบก.ภ.ประจวบฯกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.(หน.มค.) กำชับให้ ตร.ทุกหน่วยดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการเข้มงวดพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนในรับผิดชอบบูรณาการกำลังตามแผนสกัดกั้นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายซึ่งมีช่องทางธรรมชาติติดพื้นที่ชายแดนหลายจุด จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบว่าแก๊งค้าแรงงานมีการทำสัญลักณ์บอกจุดนัดพบเอาไว้โดยการผูกผ้าสีไว้ตามจุดต่างๆ ส่วนแรงงานต่างด้าวใช้เชือกพันไว้ที่ข้อมือจัดเป็นหมวดสีเพื่อให้ง่ายต่อการนำพา เบื้องต้นกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มข้นการออกตรวจสกัดกั้นการใช้เส้นทางหลบเลี่ยงโดยใช้ความระมัดระวังโดยให้ปฎิบัติตามหลักยุทธวิธีเพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และปฎิบัติตามมาตราการณ์ป้องกันโรคโควิด-19 ที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบพื้นที่จุดพักคอยแรงงานต่างดาวหลายจุดในพื้นที่ ม.3 ต.เกาะหลัก และพื้นที่ วังตะเคียนม.9 ต.คลองวาฬ มีร่องรอยลักษณะการเดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติหลายจุดโดยผ่านสวนยางของชาวบ้านมาที่จุดพักคอยตามนัด จะมีสัญลักณ์บอกไว้แต่ระจุดโดยการผูกผ้าสีต่างๆไว้ตามต้นไม้ให้เห็นจากนั้นรอเวลาจนกว่าจะมีผู้นำพามารับ หลังจากการสอบสวนผู้นำพานาย บะเอ อายุ33 ปี เป็นชาวจังหวัดทวาย ประเทศพม่าหลังถูกจับกุมทราบว่าได้รับค่าจ้างจากผู้ว่าจ่างที่เป็นชาวพม่าในฝั่งไทยเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทให้ไปรับแรงงานต่างดาวชาวพม่าจำนวน 22 คนบนด่านสิงขร บริเวณช่องสิบศพ ม.3 ต.เกาะหลัก จ.ประจวบฯตามจุดนัดนำมาส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยนาย บะเอ ให้การว่าตนเคยทำมาแล้วบ่อยครั้งจึงรู้เส้นทางเป็นอย่างดี
ทั้งนี้จากการสอบถามล่ามพม่าปัญหาการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างดาวผิดกฎหมายทะลักเข้าประเทศไทยตามชายแดนเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่มาจากความอดอยากรวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่มั่นคงจึงทำให้แรงงานเหล่านี้ต้องดิ้นรนออกหางานทำตามประเทศเพื่อนบ้านโดยผ่านนายหน้าสัญชาติเดียวกันโดยยอมเสียค่านายหน้าเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาทแรกกับการได้เข้ามาหางานทำในประเทศไทย จึงเกิดขบวนการจัดหาแรงงานโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก แรงงานต่างดาวส่วนใหญ่มักมาจากหลายจังหวัดในพม่า พบว่าส่วนใหญ่จะผ่านนายหน้าลักลอบเข้าพื้นที่ฝั่งไทยตามรอยต่อช่องธรรมชาติ เขตด่านสิงขร ต.คลองวาฬ จัวหวัดประจวบฯเพราะเสียค่านายหน้านำพาถูกกว่าช่องทางธรรมชาติในจังหวัดอื่นๆ///
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 339 6444
