ผู้ตรวจสำนักนายกฯ เขต 5 พร้อมสางทุจริตสร้างสนามกีฬาร้างทับสะแกใช้งบ 24.4 ล้าน
วันที่ 27 มกราคม นายสมนึก รุ่งกำจัด คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด (กธ.จ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังเข้ารับหน้าที่ กธ.จ. โดยการเสนอชื่อจาก อ.ทับสะแก ได้แจ้งให้ผู้ตรวจราชการ เขต 5 สำนักนายกรัฐมนตรี ทราบว่ามีประชาชนร้องเรียนให้ตรวจสอบการใช้ประโยชน์สนามกีฬาทับสะแกใช้งบก่อสร้าง 24.4 ล้านบาท จากกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถูกปล่อยทิ้งร้างนานกว่า 4 ปี ริมถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม. หมู่ 6 ต.แสงอรุณ ก่อสร้างในที่ดิน 29 ไร่ ตามหนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.) ที่ ปข 0570 ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบดูแลรักษา ล่าสุดได้รับแจ้งจากผู้ตรวจราชการเขต 5 จะเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่กำกับดูแลสำนักงานกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัด ตัวแทนกรมพลศึกษา ปกครองอำเภอทับสะแก นายก อบต. แสงอรุณ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมตรวจสอบสนามสนามกีฬาดังกล่าวพร้อมกัน
นายสมนึก กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยนำเอกสาร หลักฐาน รายละเอียดที่เกี่ยวข้องก่อนการก่อสร้างมาชี้แจง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของโครงการร้าง เนื่องจากหลังก่อสร้างเสร็จไม่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าและระบบประปา โดยสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัด รับมอบโครงการจากผู้รับเหมา ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2561ซึ่งก่อสร้างล่าช้าจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ ขณะที่เดิมหลังก่อสร้างเสร็จจะมอบสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดให้ อบต.แสงอรุณรับผิดชอบ แต่ล่าสุดสภา อบต.ไม่มีมติรับมอบสนามกีฬา เนื่องจากก่อนการก่อสร้างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้แจ้งให้ อบต.รับทราบและการดูแลมีค่าใช้จ่ายสูง ปัจจุบันสนามกีฬาได้ปรับบางส่วนเป็น รพ.สนามรองรับผู้ป่วยโควิด 19 ส่วนสนามฟุตบอลหากมีหญ้าสูงจะมีชาวบ้านใกล้เคียงนำโคมาเลี้ยง
“ สนามกีฬาควรให้ประชาชนใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า ผู้เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบการใช้งบประมาณ ขั้นตอนวิธีการดำเนินการการขอใช้ที่ดิน นสล .ดำเนินการถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ ฝ่ายปกครองอำเภออนุญาตให้ใช้ นสล.ซ้ำซ้อนกับสำนักงานการประถมอำเภอหรือไม่ ผู้บริหารระดับจังหวัดได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับอดีตข้าราชการระดับสูงของสำนักงานการท่องเที่ยวหรือไม่ ทราบว่าข้าราชการบางรายที่อยู่ร่วมทำโครงการนี้ ล่าสุดชาวบ้านในจังหวัดภาคใต้ประท้วงขับไล่ ปัจจุบันยังได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกเทศมนตรีบางราย “นายสมนึก กล่าวและว่า หลังตรวจสอบโครงการนี้แล้ว จะต่อเนื่องด้วยการตรวจสอบการทุจริตงบ 40 ล้านของลูกจ้างสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า ข้าราชการระดับสูงยังไม่ถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง อัยการคดีทุจริตภาค 7 ยังไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย
////////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 339 6444
