ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวตรวจสอบ

ประจวบฯ – คดีบิ๊ก ขรก.ประจวบฯโดนร้องมาตรา 157 บานปลาย เครือข่ายต้านโกงแฉพิรุธหลักฐานใช้งบพัฒนาจังหวัดบนยอดเขาช่องกระจก

คดีบิ๊ก ขรก.ประจวบฯโดนร้องมาตรา 157 บานปลาย เครือข่ายต้านโกงแฉพิรุธหลักฐานใช้งบพัฒนาจังหวัดบนยอดเขาช่องกระจก

กรณีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นเขาช่องกระจก แลนมาร์คสำคัญด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ด้านหน้าศาลากลางจังหวัด เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตามรอยเส้นทางเสด็จ พบเพียงป้ายแสดงประวัติต้นศรีมหาโพธิ์มีพระปรมาภิไธยย่อ “ ภปร.” “สก.” แต่ไม่พบต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกบริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออก จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ต้นศรีมหาโพธิ์ถูกตัดโค่นขุดเหลือแต่ตอ ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดในจังหวัด แสดงความรับผิดชอบ นั้น

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ยื่นสอบถามการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อให้ผู้บริหารระดับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดชี้แจงด้วยเอกสาร จากนั้นได้ยื่นเรื่องร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.จังหวัด กล่าวหาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวแทนเครือข่ายฯเข้าสอบปากคำ โดยแสดงหลักฐานผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภายหลังมีการพิจาณาใช้งบพัฒนาจังหวัดด้านการท่องเที่ยวบนยอดเขาช่องกระจก ด้านหน้าศาลากลางจังหวัด มีการใช้งบหลายสิบล้านบาทต่อเนื่อง จากนั้นปล่อยปละละเลยให้สิ่งปลูกสร้างหลายชนิด ถูกทิ้งร้าง ไม่มีหน่วยงานใดรับมอบไปดูแลเพื่อบำรุงรักษา เป็นความเสียหายโดยตรงกับการใช้งบประมาณแผ่นดินที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน

จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า มีการเบิกจ่ายงบประมาณเดียวกันกับการปรับภูมิทัศน์เขาช่องกระจก เพื่อก่อสร้างอาคารโอทอป ในที่ดินของกรมธนารักษ์ ด้านข้างศาลากลางจังหวัด ปัจจุบันสำนักงานพัฒนาชุมชนยังไม่ได้รับมอบอาคารเพื่อ เปิดใช้งานตามวัตถุประสงค์ แต่พบว่าสำนักงานจังหวัดเปิดอาคารดังกล่าวอนุญาตให้เอกชนเข้าไปประกอบกิจการขายอาหารโดยเอกชนเป็นผู้ติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาและมิเตอร์ไฟฟ้า แต่ไม่มีการเก็บค่าเช่าแต่อย่างใด ทำให้ขณะนี้ผู้บริหารระดับจังหวัดไม่สามารถชี้แจงเพื่อกำหนดไทม์ไลน์สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดบริเวณเขาช่องกระจกและอาคารโอทอป หรือมีเจ้าหน้าที่รายใดรับผิดทางวินัย มีหน่วยงานงานใดรับผิดชอบบำรุงรักษาและไม่มีหน่วยใดยืนยันสิ่งปลูกสร้างจะใช้งานจริงได้เมื่อใด

“ สำหรับสิ่งปลูกสร้างจากการใช้งบพัฒนาจังหวัด 16.9 ล้านบาทในงบประมาณปี 2558 – 2559 เจ้าหน้าที่อาจเข้าใจว่าพื้นที่บนยอดเขาช่องกระจกอยู่ในความรับผิดชอบของวัดธรรมิการาม แต่เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 มีการตัดโค่นต้นโพธิ์ทรงปลูก แต่ปรากฏว่าไม่มีหน่วยงานรัฐแสดงความรับผิดชอบพื้นที่บนยอดเขาช่องกระจก รวมทั้งบริเวณรัศมีเขา ปกครองจังหวัดจึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่ายอดเขาช่องกระจกเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการรามฯ ขณะที่แต่เดิมวัดธรรมิการาม สร้างที่คณะเหนือ ชุมชนคลองบางนางรม สำหรับวัดที่คณะใต้ในปัจจุบัน วัดได้จัดซื้อที่ดินจากเอกชนสร้างวัดในภายหลัง โดยมีทางสาธารณะกั้นกลางระหว่างวัดกับเขาช่องกระจก ปัจจุบันวัดยังไม่ดำเนินการแสดงขอบเขตพื้นที่ธรณีสงฆ์ การวินิจฉัยว่าที่ดินบนยอดเขาช่องกระจกจึงเป็นเพียงกล่าวอ้างโดยไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ โดยเฉพาะการใช้ภาพถ่ายทางอากาศแสดงว่าวัดมีการใช้ประโยชน์ก่อนปี 2497 ดังนั้นการใช้งบในที่ดินดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องระเบียบวิธีปฏิบัติ “ จ.อ.เสกสรรค์ กล่าว /////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 3396 4 4 4