พะเยา – ฉ่าวโฉ่ กำนันตำบลสบบง คนดังเมืองภูซางพร้อมพวก ตบทรัพย์หนุ่มม้งอ้างพัวพันยาเสพติด เรียก1 แสน แต่หนุ่มม้งไม่ยอม บุกแจ้งความร้องสื่อ เพราะโดนข่มขู่ เอาชีวิต
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา หลังมีการร้องเรียนจากชาวบ้านเข้ามาว่าลูกเขยตัวเองถูกกำนัน ตำบลสบบง ผู้กว้างขวางในพื้นที่เรียกตัวไปพูดคุยกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งมีการเจรจาว่าหากไม่อยากให้เป็นคดีความและมีหมายจับมาให้จ่ายเงินมาให้กำนัน เป็นจำนวน 1 แสนบาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ล่าสุด นาย เม (นามสมมติ) อายุ 22 ปี หนุ่มชาวม้งที่ถูกกำนันคนดังเมืองภูซาง เรียกเงินได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ภูซาง จ.พะเยา เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้
โดย นายเม ได้เล่าว่า เมื่อประมาณกลางเดือน ม.ค.65 ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ว่ากำนันตำบลสบบง ได้โทรศัพท์มาหาให้ตนเองไปพบเพื่อพูดคุยในบ่อนชนวัว ของกำนันนัอย กำนันคนดัง แห่งอำเภอภูซาง. หลังจากนั้นตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปหาทางกำนันน้อย ทันที พอไปถึง ตัวกำนันน้อย ก็ได้นำรูปโปรไฟล์ของเฟสบุ๊คมาให้ตนเองดูและถามว่าใช่ตนเองหรือไม่ ตนเองก็บอกว่าใช่ตนเองจริง ซึ่งทางกำนันน้อย ได้พูดอีกว่าเพื่อนของตนเองที่อยู่ อ.เทิง จ.เชียงรายได้ถูกจับกุมในคดียาเสพติดและตนถูกซัดทอดว่าเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติด ซึ่งทำให้ตนเองตนใจเป็นอย่างมากและได้บอกกับกำนันน้อย ไปว่าตนเองไม่เคยรู้จักกับคนที่ถูกจับรวมทั้งไม่เคยมีเพื่ออยู่ที่ อ.เทิง ด้วย หลังจากนั้นตัวกำนันน้อย ได้บอกว่าถ้าไม่อยากให้ ทางเจ้าหน้าที่ออกหมายจับ จะต้องนำเงินจำนวน 1 แสนบาท มาเคลียร์แล้วจะไม่มีการจับกุมตามมา ทั้งนี้ตนได้บอกว่าขอกลับมาปรึกษากับแฟนและผู้ใหญ่ที่บ้านก่อน แต่แล้วเมื่อกลับมาถึงได้ไม่นานได้มีคนโทรศัพท์มาหาตนเองว่าเงินได้หรือยัง ให้รีบนำมาให้ ตนเองก็ยังปฏิเสธไปอยู่เพราะตนไม่มีเงินและไม่ได้กระทำผิดตามที่กำนันน้อย กำนันคนดังเมืองภูซางใส่ร้ายแต่อย่างใด
และต่อมากำนันน้อย ได้มีการนัดพบครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมาโดยมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและลุงที่รู้จักกับตนนั่งคุยด้วย ซึ่งทางกำนันน้อยได้บอกว่าหากไม่มีเงิน 1 แสนบาทก็จะลดให้เหลือ 4 หมื่นบาท ต่อมาทางกำนันน้อยได้พูดว่าหากไม่เชื่อว่าตนเองพัวพันเรื่องยาเสพติดนี้จะโทรศัพท์ไปหายังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้พูดคุยซึ่งกำนันน้อยก็ได้กดโทรศัพท์และให้ตนเองพูดกับเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่า เป็นตำรวจ อยู่ในเขต อ.เทิง.นายหนึ่ง
นายเม เล่าต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่นายนี้ได้บอกกับตนเองว่าตนเองเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริงและถ้าหากไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตให้จ่ายค่าดูแลผ่านทางกำนันน้อย มาด้วยเพราะทางกำนันน้อยคนนี้เคยมีบุญคุณกับทางตำรวจด้วยเช่นกันทั้งนี้ทางลุงที่รู้จักกับตนที่นั่งด้วยกันได้เสนอว่าขอจ่ายที่ 2 หมื่นบาทได้หรือไม่ ซึ่งทางตำรวจนายนี้ก็ตอบตกลงและยินดีที่จะช่วยเคลียร์คดีให้ หลังจากนั้นมาตนเองกลับถูกทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตามมาทวงถามตลอดจนล่าสุดมีตนได้เข้าไปร้องทุกข์ที่ สภ.ภูซาง ครั้งแรกช่วงค่ำของวันที่ 21 ก.พ.65 โดยไปพร้อมแฟนสาวและแม่แฟน ซึ่งทางตำรวจได้บอกว่าไม่สะดวกที่จะลงบันทึกประจำวันให้แต่รับเรื่องราวไว้และนัดมาพบอีกทั้งเวลา 13.00 น.ของวันที่ 23 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ซึ่งทราบต่อมาว่า กำนันน้อย เป็นกรรมการตำรวจของ สภ.ภูซาง อีกด้วย จึงอาจทำให้ ตำรวจเกิดความเกรงกลัวในอินธิพลของกำนัน เพราะชาวบ้านจะทราบกันดีว่า กำนันน้อยมีอิทธิพลในพื้นที่ขนาดไหน
นายเม กล่าวว่า ระหว่างที่ตนลงมาจากโรงพักเพราะตำรวจไม่รับแจ้งความ จู่ๆตนก็ได้พบกำนันน้อย และผู้ช่วยฯ มายืนรออยู่ด้านหน้า สภ.ภูซาง ก่อนแล้วพร้อมเข้ามาบอกว่าเรื่อง 2 หมื่นบาทไม่ต้องให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเดี๋ยวเงิน 2 หมื่นบาททางกำนันน้อย จะช่วยเคลียร์ให้เอง และ ต่อมาในวันรุ่งขึ้นอีกวันได้มีญาติของตนเข้ามาพบที่บ้านโดยมาพูดเชิงกดดันว่า กำนันน้อยและผู้ใหญ่บ้านทราบเรื่องแล้วทำไมไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบไป พร้อมกับโทรศัพท์ไปหาแม่ตนที่อยู่ต่างประเทศโดยต่อว่าตนให้แม่ฟังอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีคนมาข่มขู่เพื่อให้ตนเงียบและให้ยุติ ไม่ให้ติดต่อกับนักข่าว โดยข่มขู่ว่าหากเรื่องนี้เป็นข่าวขึ้นมาตนจะมีอันตรายถึงชีวิต ซึ่งตนเองคิดว่าตัวเองกับครอบครัวเริ่มที่อยู่ไม่ปกติสุขและต้องหลบซ่อนตัวก่อนแล้ว โดยขณะนี้ นายเม ยังไม่กล้าเข้าบ้านเพราะกลัวอิทธิพล ของกำนันคนดัง จะตามตัวเจอและอาจจะเกิดอันตรายได้
โดยเรื่องราวที่เกิดตนเองอยากขอความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันได้เต็มปากว่าตนเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่มีเพื่อนอยู่ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย โดยตนได้มีหลักฐานเป็นคลิปเสียงและคลิปวีดิโอที่แอบบันทึกไว้ตั้งแต่เกิดเรื่องได้ส่งต่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งได้ฝากไว้กับผู้ใหญ่เอาไว้เช่นกัน
ด้านนายคเณศ คำนนท์ นายอำเภอภูซางได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งผู้เสียหายได้นำหลักฐานมาเปิดให้ตนดู โดยเวลานี้ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอย่างเร่งด่วนด้วยเพราะ กำนันตำบลสบบง และผู้ช่วยฯเป็นเจ้าหน้าที่ใต้ปกครองของตนโดยตรง ซึ่งผลการสอบสวนจะสามารถรู้ชัดเจนได้อีก 1 อาทิตย์และจะทราบว่าทางกำนันกับพวกจะเข้าข่ายความทางวินัยด้วยหรือไม่ในเรื่องนี้ ทั้งนี้ตนทราบว่าทางผู้เสียหายและญาติได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ภูซางแล้วและทางตำรวจได้รับเรื่องเป็นคดีอาญา โดยแจ้ง 2 ข้อหาเบื้องต้นคือ ขู่กรรโชกทรัพย์ และผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นฯ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ยุทธนา แก่นจันทร์ รอง.ผบก.ภ.จว.พะเยา ถึงเรื่องดังกล่าวแจ้งว่า ได้รายงานให้ พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จว.พะเยา ทราบแล้วและได้สั่งการไปยัง สภ.ภูซาง ดำเนินการด้วยความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ปัญธิพงศ์ ศิริโชคธนากูล / จ.พะเยา รายงาน