เมื่อเวลาประมาณ 11.00น. วันที่ 18 สิงหาคม 2563 นางสาวพวงทอง ว่องไว จากศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยา ภายใต้มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา
ได้ยื่นหนังสือร้องถึง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการจัดงานโดยไม่มีมาตรการควบคุม covid-19 สาเหตุเพราะมีผู้เสียหายไปร้องเรียนในเรื่องกลัวว่าการจัดงานจะเป็นการนำพาเชื้อ covid-19 เข้ามาแพร่ระบาดให้กับชาวจังหวัดพะเยาและภายในงานมีกิจกรรมคอนเสิร์ตแสงสีเสียงซึ่งทำให้รบกวนประชาชนในบริเวณใกล้เคียงเป็นอย่างมากซึ่งนางสาวพวงทองวัยจึงได้ส่งเรื่องร้องให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการตรวจสอบพร้อมทั้งให้แจ้งความก้าวหน้าส่งมายังศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยาเพื่อทางศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยาจะได้ส่งต่อการตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ภายหลังจากมีการยื่นหนังสือร้องไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยาแล้วนั้น
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.37น. ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสว่าง กิตติศักดิ์กำจร หัวหน้าสาธารณสุขอำเภอเมืองพะเยา ถึงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในงานดังกล่าว ซึ่งทางนายสว่าง ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนในจังหวัดพะเยา ได้มีการจัดประชุมโดยมีท่านนายอำเภอเมืองพะเยา เป็นประธานในการประชุม และเชิญผู้จัดงานเทศกาลผลไม้ลำใยหวานปี 63 มาร่วมพูดคุยและชี้แจงไปแล้วว่า จะต้องทำตามมาตรฐานของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( ศบค.) จังหวัดพะเยา ซึ่งในวันประชุม ทางนายอำเภอเมืองพะเยา ได้แจ้งไปแล้วว่า ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของ ศบค. ก็จะสั่งให้หยุดการจัดงานในทันที และจะดำเนินคดีอีกด้วย ซึ่งมีการออกสุ่มตรวจภายในงานมาแล้ว 3 ครั้ง ในเวลากลางคืน ก็ไม่พบว่ากระทำผิดกฎ ศบค. แต่อย่างใด
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ว่าที่ร้อยตรี กรกฎ ประเสริฐวงษ์ นายอำเภอเมืองพะเยา ว่าการจัดงานได้ขออนุญาตหรือไม่ การขออนุญาติ งานนี้ ไม่เชิงขออนุญาต คือสามารถจัดงานได้ คือตามประกาศของ ศบค. ส่วนกลาง สามารถจัดงานได้ แต่ต้องทำตามที่ ศบค. กำหนด คือทางเข้างานจะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิ , มีเจลแอลกอฮอล์ ตรงทางเข้างาน และ ให้ผู้มาร่วมงาน สวมใส่หน้ากากอนามัย , เว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งทาง ศบค. จังหวัดพะเยา ก็รับทราบในการจัดงาน และ ออกหนังสือแจ้งไปว่า ต้องทำตามกฎระเบียบของ ศบค. อย่างไร
ซึ่งผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากภายในงานไม่ทำตามข้อกำหนด ของ ศบค. ถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายอำเภอเมืองพะเยา ตอบว่า มีความผิด และนายอำเภอเมืองพะเยา ได้กล่าวอีกว่า งานนี้้เอกชนจัดกันเอง โดยมีผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ ช่องหนึ่งในจังหวัดพะเยา เป็นผู้มาประสานงานขอจัดงานในครั้งนี้
ซึ่งนายอำเภอเมืองพะเยา ก็ถามกลับไปยังผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวและผู้จัดงานไปแล้วว่า การจัดงานครั้งนี้ คนพะเยาได้ประโยลน์อะไรบ้าง และ หากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจของพะเยาจะเสียหายขนาดไหน ซึ่งทางเราห้ามเขาจัดงานไม่ได้ แต่เราเน้นย้ำให้รักษามาตรการการป้องกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนติดเชื้อและได้รับความเสียหาย และ คอยตรวจจับได้อย่างเดียว
และเมื่อเวลา 20.30น. ผู้สื่อข่าวได้ลวพื้นที่ตรวจสอยภายในงาน
ตามที่มีประชาชนร้องเรียน
พบว่ามีการจัดงานเทศกาลผลไม้ลำไยหวานปี 63 จริง สถานที่จัดบริเวณสนามปากทางเข้าบขส.จังหวัดพะเยา ซึ่งตามป้ายที่ขึ้นบริเวณปากทางเข้างานระบุไว้ว่า เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 14 – 22 สิงหาคม 2563 โดยภายในงานมีการนำสินค้า OTOP ของกินของใช้ สินค้าราคาถูกจากโรงงาน เฟอร์นิเจอร์ อาหารของฝาก พืชพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ รวมถึงสวนสนุกเครื่องเล่นหลายรายการ และมีเวทีการแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่กำลังแสดงบนเวที
จากการเดินตรวจดูพื้นที่พบว่าภายในงานไม่มี ลำใย มาขายเหมือนดั่งชื่องานว่าลำใยหวานแต่อย่างใดมีเพียงร้านขายผลไม้ที่ตั้งแผงลอยกว้างประมาณ 2 เมตรมีผลไม้อาทิเช่น ส้ม องุ่นสาลี่ วางขายเพียงเท่านั้น และในส่วนของร้านขายของเกือบตลอดแนวมีการรุกล้ำเข้ามายังริมถนนจนเกินเส้นขอบถนน
ภายในงานมีการตั้งเต็นท์จุดคัดกรองจำนวน 3 จุดและมีเชือกขึงเป็นแนวยาวเพื่อกั้นสลับแผงเหล็ก ตลอดแนวในด้านหน้าเท่านั้น แต่ก็สามารถเดินเข้าได้ทุกช่องทาง อย่างไม่มีการเข้มงวดแต่อย่างใด
จากการสังเกตดูตามจุดคัดกรองยังพบว่าเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณภูมิ การปฎิบัติหน้าที่ตรวจวัดบ้างไม่วัดบ้าง บางคนก็ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ก็สามารถเดินเข้าไปจับจ่ายซื้อของภายในงานได้อย่างสบายใจซึ่งตรงกับคำบอกเล่าของชาวบ้านที่ร้องเรียนเข้ามาว่าการจัดงานครั้งนี้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ covid-19 เป็นอย่างมาก
จึงฝากถึง ศบค. จังหวัดพะเยา และ ผู้ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงของจังหวัดพะเยา และ อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื่อ โควิด-19 จนทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดเสียหายอย่างมหาศาลได้ต่อไป
ทีมข่าวเฉพาะกิจ ทั่วไทยนิวส์ รายงาน