ความคืบหน้า พี่ชายตาย น้องสาวแจ้งตายข้ามวัน อาสาป่อเต็กตึ๊งลงพื้นที่ มอบสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้น
วันที่ 22 มีนาคม 2565 เวลา 14.37 น. สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ วันที่ 21 มีนาคม 2565 เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 77 ปี ภายในบ้านเช้า เลขที่ 32/11 ซอย สุขสวัสดิ์ 14 แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นลักษณะบ้านไม้ชั้นเดียวแบ่งเป็นห้องให้เช่ามีทั้งหมด 16 ห้อง และที่เกิดเหตุอยู่ในห้องเช่า เลขที่ 6 ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิต ชื่อ นาย แก้ว แซ่จู อายุ 77 ปี แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด ตรวจสอบจากสภาพศพแล้วพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน และเนื่องจากผู้แจ้งซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ตายชื่อนางสาว โซยม้วย แซ่จู อายุ 64 ปี ไม่มีความเข้าใจในเรื่องของข้อกฎหมายจึงเข้าใจผิดคิดว่าวันที่ผู้ตายเสียชีวิตนั้นเป็นวันเสาร์ ในช่วงเวลา 20.00 น. ซึ่งสถานที่ราชการอาจจะปิดทำการแล้วส่วนในวันรุ่งขึ้นก็เป็นวันอาทิตย์ ก็เลยทำให้คิดว่าสถานที่ราชการอาจจะปิดทำการในช่วงวันหยุดดังกล่าวก็เลยตัดสินใจแจ้งการเสียชีวิตของพี่ชายในช่วงเช้าของวันจันทร์แทน แล้วจากการตรวจสอบและสอบถามจากผู้แจ้งโดยละเอียด แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช ไม่พบข้อสงสัยและไม่พบบาดแผลใดๆจากการโดนทำร้ายภายในร่างกายของผู้ตาย จึงเชื่อว่าไม่มีเหตุอะไรที่ทำให้ผู้แจ้งปิดบังหนือซ้อนเร้นถึงสาเหตุการตาย และอาจจะเป็นเพราะความเข้าใจผิดของผู้แจ้งซึ่งมีอายุมากแล้วอาจจะไม่เข้าใจในข้อกฎหมายจริงๆและต้องดูแลพี่ชายอีกคนที่พิการแขน หลังค่อม ไม่สามารถเดินได้อย่างสะดวก จึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทางญาติไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
ส่วนเบื้องต้นวันนี้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้นำข้าวสารอาหารแห้งมาช่วยเหลือเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ในช่วงหนึ่งแต่สิ่งที่เกินความคาดหมายนั้นเมื่ออาสาสมัครได้นำข้าวสารอาหารแห้งเข้าไปภายในห้องพบว่า ภายในห้องนั้นกลับเต็มไปด้วยสิ่งของมากมายที่ นางสาวโซยม้วย ได้เก็บสะสมเอาไว้เพื่อชั่งกิโลขายเพื่อนำเงินมาประทังชีวิต จนแทบจะไม่มีทางเดินและที่นอน ส่วนพี่ชายของ โซยม้วย ต้องนอนในที่แคบๆโดยมีลังกระดาษมาปูนอน หรือบางทีจะใช้วิธีนั่งหลับเพราะที่นอนไม่มีเลยไม่สะดวก ส่วนด้านในมีลังนมถั่วเหลืองยี่ห้อดังจำนวนหลายลังซึ่งด้านในยังมีนมถั่วเหลืองที่ยังไม่ได้เปิดรับประทานจำนวนหนึ่งและบางลังได้เปิดรับประทานไปแล้ว แต่นมถั่วเหลือทั้งหมดนั้นหมดอายุนานแล้วซึ่งไม่ควรนำมารับประทานอีกเพราะอาจจะทำให้ท้องเสีย แต่นางสาว โซยม้วย กลับไม่นำไปทิ้งแต่จะเก็บเอาไว้อย่างนั้นซึ่งคาดว่าอาจจะเก็บเอาไว้รับประทานต่อเพราะตนเองเป็นผู้ไม่มีรายได้และไม่มีเงินพอที่จะไปซื้อหาอาหารมาพอจุนเจือในครอบครัวก็เป็นได้
จากการสอบถามคุณ โซยม้วย แซ่จู อายุ 64 ปี บอกว่า ปกติตนและพี่ชายก็ไม่มีโรคประจำตัวอะไร เพราะไม่เคยได้ไปหาหมอตรวจอะไรเลย ไม่สบายก็แค่มีไข้ ก็กินแต่ยาพารา ก็หาย เลยไม่รู้ว่ามีโรคประจำตัวอะไร
ส่วนทางเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต็กตึ้งฝ่ายสื่อสารองค์กร นายณัชพล แซ่โซ บอกว่า วันนี้ได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคบางอย่างนำมามอยให้คุณลุงกับคุณป้า เนื่องจาก เมื่อวานได้ทราบข่าวว่า คุณป้าเพิ่งเสียชีวิตภายในห้องเข่าตั้งแต่คืนวันเสาร์แล้วมาแจ้งตอนเข้าวันจันทร์ เนื่องจาก คุณป้าแกเข้าใจว่า เป็นวันหยุดราชการไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงาน แต่อาสาก็ได้ดำเนินการช่วยเหลือ จัดงานฌาปนกิจเสร็จสิ้นไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เมื่อตรวจสอบดูแล้ว คุณป้าแกยังมีพี่ชายที่ต้องดูแลอีกคนนึงซึ่งมีความพิการที่แขนตั้งแต่กำเนิด สภาพความเป็นอยู่ลำบากมาก พี่ชายมีแผลกดทับที่มือด้านขวา ส่วนแขนซ้ายมีแผลจากการถูกแมลงกัดต่อย หลังค่อมโก่ง เดินได้ตามปกติ พูดคุยได้ แต่ไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ส่วนผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ก็เป็นพี่ชายคนโต แกเคยประสบอุบัติเหตุแล้วก็ล้มบ่อยร่างกายจึงไม่แข็งแรง ก็ได้แต่นอนพักที่ห้องเช่าเพียงลำพัง เนื่องจากจะพักรวมกัน 3 คนไม่ได้ ห้องคับแคบ จึงแยกพักอยู่ห้องข้างเคียง คุณป้าก็ต้องคอยเดินไปดูแลอยู่เป็นประจำ
ส่วนเบื้องต้นจากการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของนาย สมชาย แซ่จู อายุ70 ปี นั้นพบว่าที่ข้อศอกข้างขวา มีบาดแผลจากการถูกแมลงสาบกัดแทะ เป็นแผลพุพองอาจจะติดเชื้อโรคได้ต่อไปในอนาคตเพราะเชื้อแบตทีเรียจากน้ำลายของแมลงสาบส่วนที่มือข้างซ้ายนิ้วมือไม่สามารถแบมือได้เหมือนคนปกติ และมีบาดแผลกดทับที่ข้อมือจนเป็นรูลึกและเป็นหนองซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนถ้าไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์อาจจะทำให้บาดแผลดังกล่าวลุกลามจนเป็นแผลขนาดใหญ่และอาจจะทำให้ติดเชื้อได้ในที่สุดจึงอยากจะฝากหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องช่วยลงตรวจสอบผู้ป่วยดังกล่าวด้วย
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
