ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวประชุม

ร้อยเอ็ด – ขับเคลื่อนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชน 

ร้อยเอ็ด ขับเคลื่อนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชน

วันอังคารที่ 5 เมษายน 2565 เวลา 09.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการ ประชุมขับเคลื่อนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี พระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ,พระพิพัฒน์วชิโรภาส ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ,นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ระหว่างฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการกำหนดพื้นที่และเป้าหมายการพัฒนาชุมชน ร่วมกันสร้างพื้นที่ต้นแบบและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง” พร้อมทั้งขับเคลื่อนและช่วยเหลือสังคมให้เกิดความสุข โดยให้จังหวัดดำเนินการร่วมกับคณะสงฆ์ในพื้นที่ เพื่อขยายผลไปสู่ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนให้เกิดรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน รวมทั้งรณรงค์ส่งเสริมให้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่มาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างยั่งยืน

โดยทางจังหวัดร้อยเอ็ดได้ดำเนินการแจ้งสำเนาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ให้เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ดทั้ง 2 นิกายเพื่อรับทราบและให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน แจ้งสำเนาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ให้ส่วนราชการ อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่งดำเนินการ พร้อมรายงานผลให้จังหวัดทราบเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งให้รายงานภายในวันที่ 25 ของทุกเดือน เริ่มรายงานครั้งแรกวันที่ 25 เมษายน 2565 และมอบหมายให้นักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร้อยเอ็ด รับผิดชอบในการประสานกับคณะสงฆ์จังหวัดร้อยเอ็ดทั้ง 2 นิกาย เพื่อรวบรวมรายงานผลการดำเนินการของคณะสงฆ์ในพื้นที่มาใช้ในการแก้ไขปัญหาต่อไป