ซิ่งเก๋งแหกด่านกว่า 15 กม. หนีหมายจับอาวุธปืน ชนรั้วกั้นเจ็บ 3 ราย
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 19 ก.ค.65 พ.ต.ท.มงคล ศิริเวช สว.(สอบสวน) สภ.แสนสุข ได้รับแจ้งมีรถชนราวเหล็กกั้นบนถนน อ่างศิลา – บางแสน ช่วงแยกไฟแดงร้านอาหารแสนสมบูรณ์ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ พบรถเก๋งนั่งส่วนบุคคลยี่ห้อฮอนด้า HRV สีดำ ทะเบียน 4 กผ 3407 กทม. สภาพพุ่งชนราวกั้นพังยับเยินทั้งคัน ล้อหลัง 2 ข้างแตกเหลือแต่ล้อแม็ก ที่นั่งคนขับพบ
ร่างนายจงปกรณ์ จิตบำรุงพรชัย อายุ 33 ปี บ้านอยู่ กทม.ได้รับบาดเจ็บสภาพศีรษะแตกมีแผลถลอกตามร่างกาย นอกจากนี้ยังมีนายเดชา อารีดี อายุ 37 ปี และนาย ณัฐพล ปลาบู่ทอง อายุ 24 ปี ที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย กู้ภัยฯปฐมพยาบาลเบื้องต้น รีบนำส่ง รพ.ชลบุรี โดยมีตำรวจที่ตามรถคันนี้มายืนล้อมรถอยู่ ค้นในรถพบกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ถามพยานทราบว่ารถคันนี้ได้แหกด่านหนีตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี และมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ สอบถาม ร.ต.อ.เลียบ เกตุชาติ รอง สวป. สภ.เมืองชลบุรี ได้เปิดเผยว่า ขณะที่ตนตั้งด่านตรวจค้น ป้องกันเหตุอาชญากรรมและป้องกันยาเสพติด บนถนนสุขุมวิท ช่วงฝั่งตรงข้ามวัดบุญญราศี ขาเข้า อ.เมืองชลบุรี ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี รถคันนี้ได้วิ่งเข้ามาที่ด่านและชะลอเหมือนจะให้ตรวจ ทางตำรวจจึงได้เอาเหล็กแหลมกั้นรถไว้จู่ๆ รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องพุ่งเหยียบเหล็กแหลมราวกั้น ทำให้ล้อหลังแตกและขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนและตำรวจสายตรวจ จึงขับรถไล่ตามมาบนถนนสุขุมวิท แล้วมาเลี้ยวขวาตรงแยกอ่างศิลาพุ่งชนราวกั้นเหล็ก ขับหนีมาประมาณ 15 กิโลเมตร หลังตรวจค้นในรถพบกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวนหนึ่ง แต่ไม่พบอาวุธปืนหรือยาเสพติด ซึ่งต้องนำไปสอบสวนขยายผล คาดว่าถ้ามีของผิดกฎหมาย อาจจะโยนทิ้งกลางทางก็ได้ แต่ต้องสอบสวนให้ละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากคนขับรถนั้นสารภาพมีหมายจับคดีอาวุธปืนที่กรุงเทพฯ เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว
สอบถาม นายจงปกรณ์ คนขับเผยอ้างว่าขับรถมาจากกรุงเทพฯ จะไปเที่ยวหาดบางแสน แต่มาเจอด่านตกใจเพราะตนมีหมายจับคดีอาวุธปืนเมื่อเดือนที่แล้ว จึงตัดสินใจขับรถหนีและมาชนราวกั้นดังกล่าว เบื้องต้น จนท.ตำรวจ ได้อายัดตัวทั้ง 3 คน ไว้ที่ รพ.ชลบุรี และจะได้สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก
