กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ หนุ่มใหญ่ วัย 48 ปี ขับซูบารุ พุ่งชนท้ายรถหกล้อติดเครน ย่านประชาอุทิศ
วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เวลา 18.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถซูบารุ ชนท้าย รถบรรทุกหกล้อติดเครน บริเวณใกล้เคียงปากซอยประชาอุทิศ 39 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 รายยังคงติดค้างอยู่ในตัวรถ จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. ) เขตราษฎร์บูรณะ เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ พบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณใกล้เคียงปากซอยประชาอุทิศ 39 ถนน ประชาอุทิศ มุ่งหน้าแยกนาหลวง แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบพบรถยนต์สี่ล้อเล็ก (ซูบารุ ) ยี่ห้อ Autozam สีเขียว ทะเบียน ฟง 425 กรุงเทพมหานคร ( ป้ายสีเหลือง ) ซึ่งดัดแปลงเป็นรถนั่งสาธารณะ วิ่งระหว่าง ท่าน้ำท่าดินแดง – บางประกอก ในลักษณะชนติดคาอยู่ที่ท้ายรถบรรทุกหกล้อติดเครน ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 60-8335 กรุงเทพมหานคร ( ป้ายทะเบียนสีเหลือง ) และภายในรถซูบารุยังพบกับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย อายุ 48 ปี แล้วยังเป็นผู้ขับขี่รถซูบารุ คันดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งอยู่ในลักษณะขาทั้งสองข้างถูกโครงรถด้านหน้ากดทับและตรงบริเวณท้องน้อยยังมีพวงมาลัยบังคับล้อกดทับไว้อีก จึงทำให้ขยับตัวไปไหนไม่ได้แล้วมีอาการปวดเจ็บบริเวณจุดกดทับดังกล่าว ส่วนด้านหน้าของรถซูบารุพังยับเยินเสียหายกระจกหน้าแตกละเอียด โครงรถด้านหน้ายุบผิดรูปอย่างเห็นได้ชัดเจนประตูทั้งสองข้างบุบเสียหาย อาสาสมัครจึงเร่งให้การช่วยกันงัดรถแล้วนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากตัวรถ ใช้เวลาเพียง 10 นาที แล้วทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนที่จะนำส่งโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์อย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามผู้ขับขี่รถบรรทุก บอกว่า ตนขับรถมาตามทางเพื่อจะกลับเข้าอู่ย่านพุทธบูชา พอถึงที่เกิดเหตุตนขับลงสะพานมุ่งหน้าแยกนาหลวงมาก็เห็นมีรถจักรยานปั่นกับรถมอไซค์ออกจากซอยเพื่อจะข้ามไปอีกฝั่งนึง ช่วงนั้นมีฝนตกลงมาปรอยๆ ตนจึงเบรคยาว แล้วจู่ๆก็มีรถซูบารุมาชนท้ายรถ ตนจึงลงไปดู เห็นมีคนขับคนเดียว ไม่มีผู้โดยสารมา ตนก็ลงไปพูดประมาณ ขับรถยังไง ไม่เห็นหรอว่าตนเบรค รอยเบรคยังเห็นเป็นทางยาวอยู่เลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บหายดี หรือพอที่จะให้การได้ ถึงจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วถึงจะสรุปผลทางด้านกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.