บรรยากาศภายในวัดมกุฏกษัตริย์ พิธีรดน้ำศพ คุณแม่อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ ดารานักแสดง
วันที่ 28 ส.ค. 63 เวลา 15.00 น. ณ วัดมกุฏกษัตริย์ ถนนกรุงเกษม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บรรยากาศในศาลา ซึ่งเต็มไปด้วยอาการเศร้าโศกเสียใจของการจากไปอย่างรวดเร็วของแม่อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ ดารานักแสดง ซึ่งเป็นที่รู้จัก เป็นที่รักใคร่ สนิทสนมของคนในวงการบันเทิง มาหลาย 10 ปี มีญาติพี่น้อง คนสนิท นักแสดง ดารา ศิลปิน ที่รู้จักคุ้นเคยมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
ทางด้าน ซินแสเป็นหนึ่ง ซึ่งสนิทสนมกับคุณอ้อย มาร่วมงาน และได้กล่าวว่า “โดยส่วนตัวผมสนิทกับพี่อ้อย พอสมควร เคยไปพักที่บ้าน ค้างที่บ้าน มานั่งคุยกัน เป็นประจำ แล้วมาพักหลังนี้ ทราบว่าแกป่วย แล้วแกก็หายเงียบไป ไม่ได้คุยกัน ไม่ไปมาหาสู่กัน เนื่องจากแกป่วย ทราบเพียงนี้ พอมาเมื่อวานนั่งทำงานอยู่ แล้วมีข่าวออกมาว่าแกเสีย ยังคิดว่า เป็นข่าวปลอมหรือป่าว พอทราบว่าแกเสียจริง ก็รู้สึกแย่ว่า แกไปเร็วมาก ความรู้สึกตอนนี้คือ เหมือนพี่อ้อยยังอยู่ใกล้ๆ เพราะพี่อ้อยแกเป็นคนดี เป็นที่รักของคนในวงการบันเทิง แต่คิดอีกที แกไปสบายแล้ว ไม่ทุกข์ทรมาน แกไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์แล้ว”
ปั้นจั่น หลานชาย คุณอ้อย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ตอนนี้เป็นช่วงไว้ทุกข์ อยู่ในอาการโศกเศร้า เสียใจจากการจากไปของน้า ตัวผมก็สนิทและรู้จักกับน้าอ้อยมาตั้งแต่เด็ก ก็ยังรักและคิดถึงน้าตลอด แต่รู้สึกว่า น้าแกจากไปไวเกินไป แต่ก็บอกกับน้องๆ ญาติๆทุกคนว่า สิ่งที่น้าอยากเห็นคือ การดูแลคนที่ยังอยู่ ก็ขอให้น้าไปอย่างมีความสุข ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้นครับ จริงๆแล้วจะมีผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงเท่านั้นที่ทราบว่า ผมเป็นหลานแท้ๆของน้าอ้อย คือแม่ผมเป็นพี่สาวของน้าอ้อย ตอนเด็กๆ ผมวิ่งเล่นกันน้องเพลง ลูกสาวน้าอ้อย ซึ่งห่างกันแค่ปีเดียว จะไปเล่นที่บ้าน ทุกอาทิตย์ และเวลาที่น้าอ้อยไปกองก็จะพาไปด้วย ไปวิ่งเล่นในกอง แม่ผมก็จะไปรับน้าอ้อยที่กอง น้าอ้อยก็เลี้ยงผมตั้งแต่เล็กๆ ระยะแรกๆที่ทราบว่า น้าป่วยก็เป็นโรคหัวใจ แต่ที่แจ้งมาเมื่อวาน คือป่วยเป็นมะเร็วด้วยแต่น้าอ้อยไม่อยากให้คนในวงการทราบ เพราะรู้ว่าเป็นมะเร็งเนี่ย มันเรื่องใหญ่ ตามความเข้าใจของผมนะ และน้ายังอยากทำงานอยู่ แล้วเวลาทำการรักษา จะให้ยาต้านมะเร็งก็มีผลกระทบต่อโรคหัวใจ จะให้ยาหัวใจก็กระทบต่อมะเร็ง มันก็เลยมีผลทำให้ทรุดลงเรื่อยๆ ในระหว่างที่น้าอ้อยเข้าพักที่ โรงพยาบาล พวกญาติๆก็มาเฝ้า 2 อาทิตย์ล่ะ ที่ต้องดูอย่างใกล้ชิด เพราะคุณหมอบอก อาการไม่ดีนะ ให้ทำใจ แต่เราก็ยังไม่ยอมรับว่า น้าอ้อยจะไปไวขนาดนี้ ส่วนตัวน้องเองยังดูเข้มแข็งอยู่ แต่ถ้าเสร็จจากงาน แล้วได้อยู่กับตัวเองนี้คงต้องมีบ้าง แต่ส่วนทางน้าโต้งซึ่งเป็นสามีน้าอ้อยนี่เมื่อวานนี้ดูหนักอยู่เหมือนกัน คุณแม่ผมไปทุกวัน ไปให้กำลังใจน้องเพลง และน้าโต้ง ส่วนผม เมื่อวานแจ้งข่าวมาช่วงบ่าย ว่าน้าอ้อยไม่ไหวแล้วนะ แต่ผมอยู่ไกล กว่าจะมาถึง รถติดมาก พอผมถึงหน้าโรงพยาบาล แม่ไลน์มาว่า น้าอ้อยไปแล้วนะ แต่ระหว่างที่โทรมาก็ร้องไห้ไปแล้วนะ น่าจะเป็นเวลานั้นที่น้าอ้อยไป ช่วงนี้ก็จะยุ่งๆอยู่กับการเตรียมงาน จัดงานกัน พอเสร็จจากพิธี อะไรเรียบร้อยแล้ว ความเศร้าโศกต้องมีมาอยู่ ต้องดูแล ให้กำลังใจกัน ต่อไป”
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.